ร้องดีเอสไอสอบแผนฟื้นฟูสหฟาร์มส่อทุจริต
เจ้าหนี้รายย่อยสหฟาร์มบุกร้องดีเอสไอ-ศาลล้มละลายกลาง ตรวจสอบแผนฟื้นฟูส่อทุจริต
เจ้าหนี้รายย่อยสหฟาร์มบุกร้องดีเอสไอ-ศาลล้มละลายกลาง ตรวจสอบแผนฟื้นฟูส่อทุจริต
นายศักดิ์ชัย ลาภพรศิริกุล ตัวแทนเจ้าหนี้การค้ากลุ่มวัตถุดิบ พร้อมสมาชิก ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และศาลล้มละลายกลาง เพื่อให้ตรวจสอบแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทสหฟาร์มและบริษัทโกลเด้นไลน์ ซึ่งมีประเด็นส่อทุจริตและไม่เป็นธรรมต่อเจ้าหนี้รายย่อย
ทั้งนี้พบว่ายอดการขอรับชำระหนี้สูงผิดปกติจากเดิมที่ขอศาลฟื้นฟูกิจการมียอดหนี้ ของทั้ง 2 บริษัทรวมประมาณ2.8หมื่นล้านบาท แต่เมื่อจัดทำแผนฟื้นฟูพบว่ามียอดหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 557,411ล้านบาท
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ยังพบความผิดปกติว่ามีคนในตระกูลโชติวัญ บุคคลใกล้ชิด และบริษัทในเครือขอรับชำระหนี้ รวมทั้งหมด 539,492 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 96 % ของยอดหนี้ทั้งหมด ขณะที่เจ้าหนี้รายย่อยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกว่า 7,000 รายรวมถึงเจ้าหนี้กลุ่มสถาบันการเงินมียอดหนี้รวม 17919 ล้านบาทคิดเป็น3.3% โดยในวันที่ 25 พ.ค.นี้ จะมีการนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อขอมติเห็นชอบแผนฟื้นฟู ซึ่งเกรงว่าไม่เป็นธรรมกับเจ้าหนี้รายย่อย เพราะถ้าโหวตจะต้องแพ้คะแนนเสียงเจ้าหนี้รายใหญ่ ที่เป็นกลุ่มนายปัญญา โชติเทวัญ รวมทั้ง ยังพบประเด็นที่น่าสงสัยและขอให้ช่วยตรวจสอบกลุ่มลูกหนี้ที่ 8และ9 ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัยเนื่องจากมีชื่อในตระกูลโชติเทวัญ คนใกล้ชิด และบริษัทในเครือ ยื่นขอรับชำระหนี้ 9,269 ล้านบาท
รวมทั้งกลุ่มเจ้าหนี้ที่10 มีการยื่นขอรับชำระหนี้มากผิดปกติจำนวน 530,188 ล้านบาท ทั้งที่ตามงบดุลของทั้งสองบริษัท มียอดหนี้ 28,121 ล้านบาท ซึ่งยอดหนี้ขอรับชำระมากกว่างบดุลเกือบ 20เท่า หรือมีหนี้งอกเพิ่มขึ้นมา 5แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังพบข้อพิรุธขัดแย้งกันในบัญชีงบดุล งบกำไรขาดทุน ของบริษัทสหฟาร์ม ทั้งในช่วงการยื่นขอฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลางวันที่31ต.ค. 2556 ทำให้บริษัทตรวจสอบบัญชี KPMG ไม่กล้ารับรอง ความถูกต้อง จึงไปจ้างบริษัท PVA ให้ตรวจสอบบัญชี พ.ศ. 2556 ทำให้ยอดขาดทุน และยอดหนี้สิ้นวันที่ 31ธ.ค.56 แตกต่างจากวันที่ 31ต.ค. 56 มากถึง2,390ล้านบาท ในช่วงเวลาเพียง2 เดือน โดยมียอดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารเพิ่มขึ้น 1,943ล้านบาท ทำให้ขาดทุน 2,030ล้านบาท และถ้าเปรียบเทียบกับยอดหนี้ที่แสดงในแผนฟื้นฟูวันที่23ก.ค.57 มีนอดหนี้เพิ่มขึ้น 3,757 ล้านบาท
ส่วนเจ้าหนี้กลุ่มที่ 7 คือเจ้าหนี้กลุ่มแรงงาน ยังพบว่ามีรายชื่อคนในตระกูลโชติเทวัญ และบุุคคลใกล้ชิดจำนวน 22 ราย และมีชื่อซ้ำนกลุ่มเจ้าหนี้ กลุ่มที่ 8-9-10ด้วย ขอรับชำระเงินยอดหนี้รวม 35 ล้านบาท โดยนายปัญญา โชติเทวัญ ขอยื่นรับชำระหนี้ 6.2ล้านบาท
พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอ รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ้มเจ้าหนี้รายย่อยของบริษัทสหฟาร์มแล้ว จะต้องตรวจสอบว่าอยู่ภายใต้กฎหมายที่ดีเอสไอจะดำเนินการได้หรือไหม ซึ่งจะคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 10-15วัน


