posttoday

บลจ.กสิกรปันผล5กองหุ้นต่างประเทศ

08 สิงหาคม 2557

บลจ.กสิกรไทย แจกปันผลกองทุนต่างประเทศ 5 กองทุน กว่า 410 ล้านบาท ชี้เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ร้อนแรง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป ยังโตต่อเนื่อง

บลจ.กสิกรไทย แจกปันผลกองทุนต่างประเทศ 5 กองทุน กว่า 410 ล้านบาท ชี้เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ร้อนแรง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป ยังโตต่อเนื่อง

นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย เตรียมจ่ายปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 5 กองทุน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 410 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.2556 - 31 ก.ค.2557 จ่ายในอัตรา 0.15 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ออพพอร์ทูนนิตี้ (K-GEMO) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.- 31 ก.ค.2557 จ่ายในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย
กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.2556 - 31 ก.ค.2557 จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 31 ก.ค.2557 โดยจ่ายในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.- 31 ก.ค.2557 จ่ายในอัตรา 0.55 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 5 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 ก.ค.2557 และจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 ส.ค.2557

นายนาวิน กล่าวว่า กองทุนส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยกองทุน K-INDIA มีผลงานโดดเด่น ตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนกว่า 30% ชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 25% กองทุน K-ASIA ตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทบเกือบ 8% ได้รับอานิสงส์หลักมาจากหุ้นอินเดียที่มีสัดส่วนอยู่เป็นอันดับ 2 ที่สัดส่วนประมาณ 25% ของกองทุน โดยอินเดียถือเป็นตลาดที่มีการปรับตัวขึ้นสูงเหนือตลาดของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับกองทุนหลักเน้นลงทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก จึงมีแนวโน้มและโอกาสเติบโตได้สูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่

สำหรับกองทุน K-EUROPE ผลการดำเนินงานที่เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอทุกช่วงระยะเวลา ด้านกองทุน K-USA ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาให้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อย แต่ในระยะเวลา 1 ปีให้ผลดำเนินงานที่ 18.27% ซึ่งดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 16.42%

“ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาส่งสัญญาณเชิงบวกและยังคงมีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย อาทิ อินเดีย จีน ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขเศรษฐกิจ GDP ในไตรมาสที่ 2 ของจีนขยายตัวได้ 7.5% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้และออกมาดีกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ 7.4%”นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าว
สำหรับทิศทางการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ.กสิกรไทยประเมินว่า ตลาดหุ้นเอเชียยังมีความน่าสนใจ โดยได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของตลาดพัฒนาแล้วช่วยหนุนการส่งออกในประเทศเอเชีย บวกกับปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจเอเชียที่ยังแข็งแกร่ง แต่ต้องติดตามความชัดเจนเป็นรูปธรรมของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและอินเดียในอนาคต รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในอิรัก หรือสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจกดดันบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมได้

นอกจากนี้แนะนำให้ชะลอเข้าลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นสหรัฐและอาจอาศัยจังหวะในช่วงที่ดัชนีปรับฐานลงมาทยอยเข้าสะสมเพิ่ม ส่วนตลาดหุ้นยุโรปในระยะยาวยังคงแนะนำให้เข้าลงทุนเพิ่มและต้องติดตามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เหตุการณ์รุนแรงในฉนวนกาซาและกรณีการผิดนัดชำระหนี้ของอาร์เจนตินา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปได้

ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ