คนส่วนใหญ่อยากทำในสิ่งที่รัก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

“คนส่วนใหญ่อยากทำในสิ่งที่รัก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ” อันนี้เรื่องจริง เพราะทุกคนต้องทำมาหากิน เอาแค่ว่าเงินจะกินข้าวยังไม่มีเลย จะลืมตาอ้าปากอย่างไร??

เรื่องนี้ยาก เพราะคนส่วนใหญ่ชอบมองที่ผลลัพธ์ของคน|คนหนึ่ง แล้วก็เอามาเป็นที่ตั้งว่าอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง แต่หลายคนลืมมองถึงเส้นทางในการมา คุณเคยอ่านเรื่องของจากยาจกสู่เศรษฐีบ้างไหม จะบอกว่ามันมีอยู่เยอะมาก ที่บางคนเกิดมาไม่มีอะไรเลย แต่สุดท้ายสร้างตัวจนเป็นอภิมหาเศรษฐี-เอาล่ะ!! ถ้าใครก็ตามมองเรื่องจากยาจกสู่เศรษฐีว่าเป็นเรื่องของโชคล้วนๆ ผมเชื่อแน่ว่าคนคนนั้นจะไม่สามารถสร้างตัวเป็นเศรษฐีได้เลย

“ทั้งหมดคือโชคจริงหรือ?” ถ้าบอกว่าบางส่วนเป็นเรื่องของโชคก็ใช่อยู่ แต่ส่วนใหญ่ ไอ้ส่วนที่นำพาเราไปหาความโชคดีมันต้องเริ่มที่ตัวเรา พาตัวเราเองไปสู่โอกาสให้ได้ก่อน ใครก็ตามที่เกิดขึ้นมายากจน แล้วก็นั่งจน นอนจน แคะขี้มูก นั่งๆ นอนๆ จน ไปเรื่อยๆ ก็เชื่อเถอะ ไม่มีทางรวย!!

ประเด็นแรก ต้องลุกขึ้นมาหาความรู้ เพราะสิ่งที่จะยกระดับฐานะของคนก็คือ “การศึกษา” ถ้าไม่มีการศึกษา ผมการันตีเลยว่าซวยชัวร์ เพราะงานที่ทำหนีไม่พ้นงานใช้แรงงาน งานที่ใครๆ ก็ทำได้ แบกปูน ขนข้าว ซึ่งพอใครๆ ก็ทำได้ ค่าจ้างก็ต่ำ มันจะไปพอค่าครองชีพได้อย่างไร - ดังนั้น อย่างแรก ต้องศึกษาหาความรู้ ให้เรามีความสามารถที่แตกต่าง ...นี่แหละ การสร้างโอกาสเบื้องต้นที่จะยกระดับฐานะ ถ้าใครเคยอ่านเรื่องราวของเศรษฐีอินเดียมากมาย จะเห็นได้ว่าคนเหล่านี้เกิดมาโคตรจน แย่กว่าบ้านเราเยอะ นอนอัดกันในห้องเล็กๆ เป็นสิบคน แต่คนเหล่านี้พลิกตัวเองได้กลายมาเป็นเศรษฐีไอที เจ้าของบริษัท Software ระดับโลก ก็เพราะเขาเริ่มที่การศึกษา

หลายคนไปเข้าใจว่า การศึกษา ก็คือ การเรียนปริญญา จริงๆ มันไม่เกี่ยว คิดดีๆ นะ การศึกษาเดี๋ยวนี้ความรู้หาได้ง่ายมาก เพียงคุณมี Internet คุณหาความรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด จากนั้นการหาหนังสือมาศึกษาในเรื่องที่เรารู้ หรือเข้าไปเรียนที่อยากจะเรียน วันนี้โอกาสมันเปิดกว้าง (ถ้าจะแนะนำให้ไปแอบนั่งตามมหาวิทยาลัยดัง อย่างที่ Steve Job เคยไปแอบเรียนพักลักจำในมหาวิทยาลัยแบบไม่จ่ายเงิน) จริงๆ ทำได้ ใครจะมาไล่คุณ แต่มันจะ Hardcore ไปนิด) ก็เอาเป็นว่า อย่างแรก ต้องลุกขึ้นมาพยายามศึกษาเล่าเรียน แล้วเปิดโอกาสตัวเองให้หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งอยากรู้ ก็ยิ่งเก่ง ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้ตัวเราเอง

“มีคนบอกว่า Passion สำคัญกว่าเงิน ...อันนี้จริงหรือ” ผมว่าจริงๆ เงินก็สำคัญ ดังนั้น ต้องทำไปด้วยกัน อย่างธุรกิจระดับโลกอย่าง Facebook หรือ Google สร้างให้เจ้าของรวยเร็วในเวลาไม่กี่ปี แต่ลองคิดดูดีๆ ว่าธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้เอาเงินเป็นโจทย์ตั้งต้น เพราะธุรกิจบ้าๆ แบบนี้ตอนเริ่มทำมันมืดแปดด้าน มันไม่มีเงิน มันมีแต่ความหวังที่มองไม่เห็นทางไป ใครจะบ้าลาออกจาก Harvard มานั่งเขียนเว็บโง่ๆ ที่ไม่รู้อนาคต แต่ Mark Zuckerberg ทำ ถ้าเอาเงินเป็นที่ตั้งก็เรียนให้จบ Harvard แล้วทำงานในบริษัทอย่าง Goldman Sachs ก็การันตีได้เงินมากอยู่แล้วไม่ดีกว่าหรือ? --- นั่นแหละ Passion ...แต่สำหรับเมืองไทย ผมแนะนำว่าอย่าไปสุดโต่งแบบนั้น เพราะสังคมเรายังไม่ได้เปิดโอกาสให้กับ Talent อย่างอเมริกา ดังนั้น โจทย์แรกของคนไทยที่มีความรู้ความสามารถและวิ่งตามความฝัน จะต้องเริ่มสร้าง “ฐานทุน” ของตัวเองให้ได้ก่อน

“การสร้างฐานทุนของตัวเอง” เริ่มอย่างไร ก็เริ่มง่ายๆ ไปเป็นลูกจ้างคนอื่น เพื่อเรียนรู้ และหาประสบการณ์ ได้เงินเท่าไหร่ให้เอามาลงทุนก่อนใช้จ่าย “ลงทุนก่อนใช้จ่าย” ...ใช่!! เมื่อได้เงินเดือนมาให้เปลี่ยนเป็นลงทุน แล้วเราค่อยใช้เงินที่ได้หลังจาก “ปันผล” ...ครับ!! มันน้อย ไม่พอซื้อกระเป๋าหลุยส์ ไม่พอซื้อรถดีๆ ไม่พอกินอาหารแพง แต่ชีวิตมันคือการเลือก ถ้าคุณเลือกแบบคนส่วนใหญ่ ใช้ชีวิตหาความสุขตามใจ ก็จะมีชีวิตที่เหมือนคนส่วนใหญ่ ที่ทำงานซื้อขยะ สะสมขยะ ยิ่งทำยิ่งติดหนี้ ยิ่งทำงานยิ่งจน

ทั้งหมดที่เล่ามา คือ Process ในการสร้าง “ฐานทุนของตัวเอง” ในเมืองไทย ถ้าคุณมีความสามารถ ทำงานเก็บเงิน เพื่อลงทุน น่าจะใช้เวลาประมาณ 5 ปี ที่คุณจะเริ่มสร้างฐานทุนแบบพอมีน้ำมีเนื้อ - “เริ่มแรกมองไม่เห็นเลยว่า เงินน้อยๆ ของผม มันจะโตได้ แต่นั่นแหละ การผัดวันประกันพรุ่ง คนส่วนใหญ่จึงไม่เคยนับหนึ่งในเส้นทางของการสร้างฐานทุนของตัวเอง ด้วยตัวเองเลย” มันเหมือนเราจะพูดว่า They can be Miracle when you Believe!! - ผม Confirm ว่าจริง และทุกความยิ่งใหญ่ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ไอ้เว็บห่วยๆ ของ Mark เริ่มจากไม่กี่ดอลลาร์ กลายมาเป็น Facebook ที่มีมูลค่ามากกว่าบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย “บ้าไหมล่ะ ใน 10 ปี สร้างจากศูนย์ แล้วใหญ่กว่าองค์กรที่สร้างมา 100 ปี อย่างปูนซิเมนต์ไทย ถ้าไม่มีความฝัน ไม่มีความบ้า และไม่เข้าใจ Money Game ไม่มีทางสร้างได้”

การเป็นลูกจ้าง เก็บเงิน ลงทุนไปพร้อมๆ กับการเป็นลูกจ้าง จะสร้างให้เรารู้จักว่า “ชีวิตและความอดทน” มันเป็นอย่างไร การเดินทางของชีวิตทุกคนเชื่อเถอะ ไม่มีทางลัด ทุกคนต้องผ่าน Process ของการบ่มเพาะ แล้วเราจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาด้วยตัวเราเอง

หากมีความเข้าใจ “ศูนย์ถึงหมื่นล้าน” ผมเชื่อว่าสร้างได้ และได้ด้วยตัวเอง!!