เทคนิคความมันส์ดูแข่ง"รถดริฟต์"

เห็นกันในหนังที่แข่งขันกันมันส์เหลือเกินกับการแข่งขันรถดริฟต์ที่จะต้องกล่าวถึงให้ร้องอ๋อกันในหนังเรื่อง “Tokyo Drift” หรือ หนังที่เป็นหนึ่งในภาคต่อของหนังแนวแข่งรถชื่อดังอย่าง Fast And The Furious จากนั้นการดริฟต์ก็ได้มาอยู่ในกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่เริ่มได้รับความนิยมกันมาอย่างต่อเนื่อง และในประเทศไทยก็ได้มีการแข่งขันในรายการใหญ่อย่าง “ดีวัน กรังด์ปรีซ์ ไทยแลนด์” ลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้วภายใต้ชื่อ “ดีวัน กรังด์ปรีซ์ ไทยแลนด์ ซีรีส์ 2013 พรีเซนเต็ด บาย พีทีที บลูอินโนเวชั่น”

งานนี้ผู้จัดอย่าง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท และ บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยเปิดลีลาสะบัดท้าย (รถ) ในสนามที่ 34 ณ สนามสงขลา อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ จ.สงขลา หลังจากที่ สนาม 12 ประเดิมความมันส์กันที่ กรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศที่เข้มข้นสุดมันส์ของการชิงชัยนักแข่งต่างสู้กันอย่างเต็มอัตราศึกเพื่อชิงความเป็นอันดับ 1 ของสนาม

สำหรับปีนี้ เร้าใจไปกับนักแข่งขันดริฟต์รถมืออาชีพจากนักแข่งแถวหน้าของเมืองไทยที่จะมาประชันความดุเดือดกับนักแข่งต่างชาติทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน คูเวต และญี่ปุ่น ร่วมชิงแชมป์กว่า 15 คน และจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมประจำปี ซึ่งผู้ชนะการแข่งดริฟต์ 2 อันดับแรกของปีจะได้เป็นตัวแทนนักแข่งดริฟต์ประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขัน “Drift World Cup D1 World Champion” พร้อมเงินสนับสนุนจาก บริษัท อินสไพร์ฯ ทีมละ 2 แสนบาท

วันนี้เพื่อเพิ่มความมันส์และการเพิ่มอรรถรสในการรับชมในโอกาสต่อไป จึงนำเอากฎกติกา และรูปแบบการแข่งขันมานำเสนอให้ได้เข้าใจก็แล้วกัน เพราะที่เราๆ ท่านๆ ดูจะเห็นความมันส์กันแบบควันท่วมจอ แต่การตัดสินแพ้ชนะนั้น ไม่ใช่ว่า “รถใครควันเยอะกว่าชนะ” (ฮา) ซึ่งกติกาการตัดสินมีเยอะกว่านั้น

เอาละ ... เริ่มต้นด้วย รูปแบบการแข่งดริฟต์ที่แบ่งเป็น 2 รอบคือ ทันโซ (Tanso) ขับคันเดี่ยวโดยให้คะแนนความเร็ว จุดเริ่มต้น ควันยาง เทคนิคการขับ และการชิดเอเป็กที่ถูกกำหนด และรอบ ซึยโซ (Tsuiso) แข่งพร้อมกัน 2 คัน 2 รอบผลัดกันนำ คะแนนได้จากการแนบชิด ที่สำคัญ!! เพิ่มความเข้มข้นด้วยกติกาการตัดสินพิเศษเฉพาะ ดีวัน กรังด์ปรีซ์ ที่ใช้ดอสส (D.O.S.S) ระบบการคำนวณและให้คะแนนด้วยจีพีเอสที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งปีนี้พัฒนาให้วัดค่าได้แม่นยำกว่าเดิม ทั้งความเร็ว มุมแองเกิล ไลน์การวิ่ง และความรุนแรงของการสะบัดท้ายรถ

ตัวเครื่องจะส่งสัญญาณดาวเทียม แล้ววัดค่าต่างๆ กลับสู่คอมพิวเตอร์ เพื่อแสดงผลเป็นคะแนนของแต่ละคน ทำให้การตัดสินไร้ข้อครหาใดๆ นอกจากนั้น ยังใช้กรรมการ 3 ท่านในการตัดสิน ได้แก่ “ฮาซาชิ คามิโมโตะ” หัวหน้าการตัดสิน “โยอิจิ ฮิมามูระ” แชมป์ตลอดกาล D1 GP และ “โนมูระ เคน” นักแข่งอารมณ์ดี ทั้ง 2 สิ่งนี้ทำให้รายการแข่งนี้มันส์แบบไร้ขีดจำกัด

การแข่งสนามที่ 34 กับการชิงชัยของบรรดายอดนักดริฟต์ชั้นนำของไทยร่วม 80 ชีวิต ผลปรากฏว่า แชมป์สนามที่ 3 ตกเป็นของ ดีเจเดรดาวิเด โดริโก้ จากพีทีที เพอร์ฟอร์ม่า ดริฟท์ทีม และแชมป์สนามที่ 4 ตกเป็นของ นนท์สรานนท์ พรพัฒนารักษ์ จากทีมโอเวอร์ไดร์ฟ ท่ามกลางบรรยากาศสุดมันส์ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร

เตรียมพบกับสนามปิดท้าย สนามที่ 5-6 ในวันที่ 12-13 ต.ค. 2556 ณ สนามเลคไซค์ เมืองทองธานี คราวนี้คงดูกีฬานี้สนุกขึ้นมากกว่าเดิมที่ดูแต่ “รถใครควันเยอะชนะ” กันแล้วนะครับ