posttoday

ย้อนดูวัฒนธรรมร่วมเพื่อนอุษาคเนย์

30 สิงหาคม 2556

การศึกษาประวัติศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่มีใครสามารถรู้ความจริงทั้งหมด จึงอาจมีแนวคิดทฤษฎีที่หลากหลาย

โดย...อัฏฐวรรณ ลวณางกูร

การศึกษาประวัติศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่มีใครสามารถรู้ความจริงทั้งหมด จึงอาจมีแนวคิดทฤษฎีที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักประวัติศาสตร์แต่ละคน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกัน

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ได้จัดงานบอกกล่าวเล่าเรื่อง “ศิลปะและวัฒนธรรมร่วมของอาเซียน” โดย “สุจิตต์ วงษ์เทศ” นักเขียนผู้สนใจประวัติศาสตร์ในภูมิภาคนี้ ที่มีมุมมองว่า อาเซียนมีรากร่วมกัน เพราะเป็นพวกเดียวกัน แต่ถูกครอบด้วยวิธีคิดแบบอาณานิคม ทำให้คิดแยกเป็นประเทศ ขณะที่การเรียนประวัติศาสตร์ก็เน้นชนชาติไทย ไม่ได้เรียนภาพรวมของอาเซียนแล้วค่อยขยายเข้ามาในส่วนที่เป็นประเทศไทย ดังนั้น เราจึงไม่เข้าใจเพื่อนบ้าน และมักคิดว่าความเป็นไทยดีที่สุด เหนือกว่าคนอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาในการอยู่ร่วมกัน

เมื่อพิจารณาคำว่า “ศิลปะ” มีความหมายดั้งเดิมว่า ความรู้ทั่วไป จนมาสมัยหลังๆ จึงเปลี่ยนความหมายเป็นงานช่างแขนงต่างๆ แต่ความรู้นี้อยู่ร่วมกันมายาวนาน วิธีเขียนรูปก็เขียนแบบเดียวกันมาก่อนจะแยกเป็นลายไทย ลายเขมร โดยรับมาจากอินเดีย ส่วน “วัฒนธรรม” ก็ไม่ใช่คำดั้งเดิม เป็นคำผูกใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของวิถีชีวิตที่มีทั้งดีและไม่ดี ชอบแบบไหนก็ทำไป จึงไม่สามารถบอกได้ว่าวัฒนธรรมของใครดีกว่ากัน

ขณะที่หลักสูตรการสอนศิลปะของไทยจะเริ่มต้นจากลายไทย ทั้งที่ลายกระหนกจากอินเดียที่รับมาพัฒนาเป็นลายไทย ลายเขมร ลายมอญนั้น เพิ่งเข้ามาไม่เกิน พ.ศ. 1000 ตามหลักฐานทางโบราณคดี แต่ก่อนหน้านั้นผู้คนในอุษาคเนย์ใช้เส้นสายลายแต้มมาไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี เช่น การเขียนรูปธรรมชาติ คน สัตว์ สิ่งของ อย่างภาพเขียนสีที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ภาพเขียนเหล่านี้ปรากฏอยู่ในทุกภาคทั่วประเทศ ทว่า กลับไม่ถูกนำมารวมในประวัติศาสตร์ศิลปะของไทย

เส้นสายลายแต้มยุคดึกดำบรรพ์สะท้อนวัฒนธรรมร่วมของคนในอุษาคเนย์ อย่างการวาดรูปคนที่มีลักษณะไม่เหมือนจริง ทั้งที่การวาดรูปสัตว์เหมือนจริง เพราะต้องการแสดงรูปร่างของบรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งมีความเหมือนระหว่างภาพเขียนในถ้ำของไทยและวายัง (หนังตะลุง) ของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ เส้นสายลายแต้มยังมาจากศาสนาผีที่เป็นความเชื่อก่อนรับศาสนาพราหมณ์หรือพุทธ รวมถึงมีลายขวัญแบบเดียวกับที่บ้านเชียง ซึ่งเป็นความเชื่อของคนในอุษาคเนย์

การศึกษาไทยผูกติดกับความคิดประวัติศาสตร์ ชนชาติและเชื้อชาติไทย ทำให้ทิ้งอะไรๆ ที่คิดว่าไม่ใช่ไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญและเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เกิดจินตนาการและพลังสร้างสรรค์งานร่วมสมัยในอนาคต เราจึงควรพิจารณาความเป็นไทยที่รุ่มร่ามรุงรังมากกว่า และทำความเข้าใจสิ่งที่ “ไม่ไทย” เสียใหม่ เพราะความไม่ไทยจะทำให้เข้าใจคนอื่น เข้าใจพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ไม่เบียดเบียน ทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

วัฒนธรรมร่วมเพิ่งเริ่มพูดกันไม่นานมานี้ เพราะแย่งกันดีกว่าคนอื่น ขณะเดียวกันวัฒนธรรมถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ควรสรุปว่าใครรับจากใคร ซึ่งถูกครอบงำโดยวิธีคิดแบบรัฐชาติ ทำให้ทะเลาะกัน

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท