โฮล ฟู้ดส์ มาร์เก็ต อาณาจักรธุรกิจอาหารออร์แกนิก

โดย...ณัฐสุดา จิตตปาลพงศ์

เมื่อเหลียวมองสังคมยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า น้อยครั้งนักที่จะมี “แบรนด์” ที่มีอิทธิพลมากพอถึงขั้นสร้างปรากฏการณ์หรือจุดกระแสในสังคมได้

เพราะการเปลี่ยนแปลงความคิดหรือพฤติกรรมของผู้คนนั้นนับเป็นภารกิจที่ท้าทายไม่น้อย ดังนั้นเฉพาะแบรนด์ที่ “แข็งแกร่ง” เท่านั้นถึงจะทำสำเร็จ

ดังเช่นกรณีของ “โฮล ฟู้ดส์ มาร์เก็ต” (Whole Foods Market) ซูเปอร์มาร์เก็ตอาหารออร์แกนิกยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยรายได้สูงถึง 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.7 แสนล้านบาท) ต่อปี และกว่า 350 สาขาทั่วสหรัฐ รวมทั้งในแคนาดาและอังกฤษ

ทว่าความสำเร็จของ โฮล ฟู้ดส์ ไม่สามารถวัดได้ด้วยตัวเลขเพียงลำพัง เพราะซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้จุดประกาย “เทรนด์อาหารออร์แกนิก” ในสหรัฐอย่างแท้จริง และที่สำคัญก็คือมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้กำหนด “เทรนด์การรับประทานอาหาร” ในเมืองลุงแซม

เรียกได้ว่า หากต้องการทราบว่าอาหารอะไรกำลัง “อิน” หรือกำลัง “เอาต์” ในสหรัฐ เพียงแค่มุ่งหน้าไปยัง โฮล ฟู้ดส์ ก็จะได้คำตอบแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทางบริษัทจะกลายเป็นธุรกิจต้นแบบที่ผู้ประกอบการมือใหม่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝันที่จะเดินรอยตาม

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2521 โฮล ฟู้ดส์ เป็นเพียงความคิดบนแผ่นกระดาษของ จอห์น แม็คกี้ หนุ่มวัย 25 ปี และเพื่อนซี้ เรเน ลอว์สัน ฮาร์ดี้ ทั้งสองจึงตัดสินใจยืมเงินจำนวน 4.5 หมื่นเหรียญสหรัฐจากครอบครัวและผองเพื่อน เพื่อเปิดร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายเฉพาะอาหารออร์แกนิกภายใต้ชื่อ “เซฟเฟอร์เวย์” ที่เมืองออสติน ในรัฐเทกซัส

แม้ในเบื้องต้นนั้นทั้งคู่จะลำบากมาก เพราะต้องอาศัยอยู่ที่ร้าน เนื่องจากไม่มีโกดังเก็บอาหาร ทว่าพอธุรกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง 2 ปีถัดมา แม็คกี้ และ เรเน ก็ตัดสินใจจับมือกับ เคร็ก เวลเลอร์ และ มาร์ค สไกลส์ เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตออร์แกนิกรายเล็ก เพื่อเปิดตัว โฮล ฟู้ดส์ อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ก.ย. 2523

ทว่า โฮล ฟู้ดส์ ก็เจอมรสุมลูกใหญ่ถาโถมเข้าอย่างหนักหลังเปิดตัวได้ไม่ถึงปี เมื่อเกิดวิกฤตอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี ของเมืองออสติน

“ทุกอย่างเสียหายหมด และที่สำคัญก็คือ ร้านเราไม่มีประกัน แต่โชคดีที่ชาวบ้านและลูกค้าร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเราทำความสะอาดและซ่อมแซมร้าน จนเราสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งภายในช่วงเวลาแค่ 28 วัน” แม็คกี้ เผย

ด้านนักวิเคราะห์เผยว่า เคล็ดลับสำคัญสู่ความสำเร็จของอาณาจักรอาหารออร์แกนิกของแม็คกี้นั้น คือ 1.ดำเนินนโยบายเชิงรุก ซึ่งเห็นได้จากการที่บริษัทลุยควบกิจการของคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงตั้งแต่ ไวด์ โอ๊ตส์ ตลอดจนเบรด แอนด์ เซอร์คัส ซึ่งล้วนแต่เป็นเชนซูเปอร์มาร์เก็ตอาหารออร์แกนิกทั้งสิ้น

2.ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า โดยจุดเด่นของ โฮล ฟู้ดส์ ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าก็คือ เผยข้อมูลอาหารสด อาทิเช่น ที่มาของเนื้อสัตว์ ตลอดจนข้อมูลทางโภชนาการของอาหาร

ส่วนเคล็ดลับสุดท้าย ซึ่งนับว่าสำคัญที่สุด นั่นก็คือ การผลักดันอาหารออร์แกนิกให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวอเมริกันทุกคน

“โฮล ฟู้ดส์ สำเร็จได้เพราะไม่ให้ขายแค่อาหารอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ แต่พวกเขาสามารถเปลี่ยนวัฒนธรรมสหรัฐและทำให้คนสนใจเรื่องอาหารมากขึ้น” ซีบีเอส สื่อชื่อดังของเมืองลุงแซมเผยเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของบริษัท

นับเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น และเชื่อว่าหากบริษัทยังคงยึดแนวทางการบริหารธุรกิจเช่นเดิม โฮล ฟู้ดส์ ก็จะยังคงอยู่เคียงคู่ชาวอเมริกันไปอีกนานแสนนาน