ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้

มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาเกี่ยวกับวิธีการและเครื่องมือที่จะใช้ในการดำเนินการกับลูกหนี้หัวหมอที่ไม่ชำระหนี้ และมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปให้บุคคลอื่นจะทำอย่างไรได้บ้าง และจะใช้เครื่องมือทางกฎหมายใดบ้างจัดการกับลูกหนี้ที่ไม่ดีเหล่านี้ ผมจึงขอนำเสนอเกี่ยวกับการจัดการกับลูกหนี้ที่ไม่สุจริตเป็นข้อๆ ดังนี้

1.พฤติกรรมของลูกหนี้ที่ไม่สุจริต มักจะก่อหนี้หลายราย หรือที่ภาษากฎหมายเรียกว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว กล่าวคือมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินมากมายหลายเท่าจนไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ อันเป็นการตั้งใจที่จะไม่ใช้หนี้และก่อหนี้โดยรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ และเอาเงินเอาทองหรือสินค้าของบุคคลอื่นไปขายหรือเล่นแร่แปรธาตุเป็นเงิน แล้วใช้ชื่อบุคคลอื่นถือทรัพย์แทน

2.ลางบอกเหตุว่าลูกหนี้จะยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน

ลูกหนี้ไม่ให้ข้อมูลหรือหลบเลี่ยงการติดต่อ

มีข่าวในทางลบของลูกหนี้

โครงการล่าช้ากว่ากำหนด หรือเกิน Cost Over Run

ผิดนัดชำระเงินกู้ตามสัญญา

การเคลื่อนไหวบัญชีน้อย และมีการเกินวงเงินบ่อยครั้ง

เช็คการค้าเรียกเก็บเงินไม่ได้ หรือนำเช็คส่วนตัวมาขายลด

ใช้วงเงินสินเชื่อประเภท P/N ผิดวัตถุประสงค์

ถูก Claim L/G โดยไม่มีเหตุอันควร

T/R Over Due หรือขอต่ออายุโดยไม่มีเหตุอันควร

Packing Credit ไม่สามารถส่งสินค้าได้ตามกำหนด

Aval Over Due

มีหนี้สินกับสถาบันการเงินอื่นๆ มาก

การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร

ผลประกอบการขาดทุน

3.การป้องกันมิให้ลูกหนี้ที่ไม่สุจริตฉ้อโกงท่านได้ ต้องเน้นไปที่การปล่อยสินเชื่อจะต้องเป็นไปตามหลักวิชาสินเชื่อ และต้องคอยตรวจสอบผู้ปล่อยสินเชื่อด้วยว่ามีส่วนทุจริตกับลูกค้าที่มาขอสินเชื่อหรือไม่ด้วย หลักวิชาในการปล่อยสินเชื่อดังต่อไปนี้

หลัก 5 C’s

1.ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะชำระหนี้ของลูกค้า (Character)

2.ความสามารถในการชำระหนี้คืน (Capacity)

3.ส่วนของกิจการนำมาลงทุนในกิจการ (Capital)

4.มีหลักทรัพย์หรือหลักประกัน (Collateral)

5.เงื่อนไขหรือกำหนดระยะเวลาการชำระคืนที่เหมาะสม (Condition)

หลัก 3 P

1.วัตถุประสงค์ในการกู้ (Purpose)

2.การจ่ายชำระหนี้คืน (Payment)

3.การป้องกันความเสียหายอันเกิดจากการชำระหนี้คืนไม่ได้ (Protection)

4.การดำเนินคดีทางอาญาในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ตัวอย่างคดีโกงเจ้าหนี้

1.โอนที่ดินให้บุตรหรือบิดา มารดา หรือสามี โดยไม่มีค่าตอบแทน

2.โอนที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างให้บุคคลอื่นในราคาต่ำกว่าท้องตลาด

3.แกล้งเป็นหนี้บุคคลอื่น เช่น ทำสัญญากู้ยืมเงินปลอมขึ้นมาแล้วชวนกันไปฟ้องศาลแพ่ง หลังจากนั้นไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน

4.โอนเงินจากบัญชีของตัวเอง โอนไปเข้าบัญชีของบุคคลอื่น เพื่อป้องกันการถูกบังคับคดี

5.การเพิกถอนการฉ้อฉลตาม ปพพ.มาตรา 237

หากลูกหนี้รู้อยู่แล้วว่าเจ้าหนี้กำลังจะดำเนินคดีกับตัวเอง ซึ่งผิดนัดชำระหนี้ แต่กลับโอนขายทรัพย์สินของตนเองให้กับบุคคลอื่น เป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ประเภทนี้ได้โดยการเพิกถอนนิติกรรม การโอนทรัพย์สินระหว่างลูกหนี้กับบุคคลอื่น เพื่อให้ทรัพย์ของลูกหนี้กลับมาเป็นของลูกหนี้ตามเดิมเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้หมดทุกคน