กสทช. คาดประกาศกิจจานุเบกษาทันมี.ค.

กสทช. เร่ง สรุปประชาพิจารณ์  หวังประกาศราชกิจจานุเบกษาทัน มี.ค.นี้

พล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า  กสทช.จะนำประเด็นที่ได้รับจากการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์  แผนแม่บททั้ง 3 ฉบับเข้าสู่ที่ประชุมชุดใหญ่เพื่อพิจารณาในประเด็นที่ต้องปรับแก้โดยเร็ว และคาดว่าจะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาได้ตามแผนเดิม เดือน มี.ค.นี้

ทั้งนี้ กสทช.เปิดประชาพิจารณ์แผนแม่บททั้ง 3 ฉบับ คือ ผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ และ แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่างๆ  เข้าร่วมแสดงความเห็น

สำหรับประเด็นที่ถูกนำเสนอมากที่สุด คือ  ระยะเวลาในการเรียคืนคลื่นความถี่ที่ กสทช.กำหนดไว้  คือ กระจายเสียง 5 ปี โทรทัศน์ 10 ปี ที่นานเกินไป และควรจะลดเหลือเพียง 3-5 ปี เท่านั้น รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ใช้คล่นความถี่ 20% ภายใน 4 ปี ที่ควรจะทยอยจัดสรรออกมาในสัดส่วน 5-10% ก่อน เพราะถือเป็นผลประโยชน์และสิทธิ์ที่ประชาชนควรจะได้ใช้

พ.อ.นที ศุกลรัตน์  รองประธานกสทช. และประธานชุดกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าวว่า เรื่องระยะเวลาการคืนคลื่นที่กสทช. กำหนดไว้นั้นอิงตามมาตรฐานตารางบริหารความถี่ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู และยังเป็นประเด็นที่เห็นต่างกัน เพราะบางความเห็นท้วงติงว่าควรเป็น 7 ปี สำหรับกระจายเสียง  ดังนั้น ต้องรอให้บอร์ดชุดใหญ่ตัดสินว่าควรปรับหรือไม่อย่างไร

พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ  รองประธาน และประธานชุดโทรคมนาคม  กล่าวว่า  สิ่งที่ต้องชัดเจนในแผนแม่บท คือ การนำความถี่ที่ว่างอยู่มาจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น 2.3 2.5 และ 2.6 กิกะเฮิร์ตซ ว่าจะนำไปพัฒนาให้เกิดมูลค่าต่อประเทศได้อย่างไรบ้าง

นายดามพ์ สุคนธทรัพย์  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า ต้องการให้กสทช.ยกเลิกประกาศกสทช.เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2554 เพราะไม่เป้นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและไม่สร้างผลดีต่อต่างชาติหาก กสทช. เปิปดประมูลใบอนุญาตให้บริการ หรือ ไลเซ่นส์ 3 จี และ 4 จีในอนาคต

นายวิเชียร เมฆตระการ  หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า นอกจากเรื่องการประมูลไลเซ่นส์ 3 จีแล้ว  กสทช.ควรต้องชัดเจนเรื่องการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่หมดสัมปทานเช่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ ว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้เอกชนสามารถเตรียมแผนการรองรับลูกค้าที่มีอยู่เดิมได้ทัน โดย บริษัท ดิจิตอลโฟน หรือ ดีพีซี ที่ให้บริการคลื่นดังกล่าวมีลูกค้าอยู่ที่ 4 หมื่นราย