“ประเสริฐ ” ส่งไม้ต่อ รมว.ดีอี คนใหม่ ผลักดันกฎหมาย 3 ฉบับ - เดินหน้า AI แห่งชาติ
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” พร้อมส่งไม้ต่อนโยบายดิจิทัลสู่ รมว.ดีอีคนใหม่ แจงงานเร่งด่วน ปราบโจรไซเบอร์ ยกระดับรัฐบาลดิจิทัล ดันกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล 3 ฉบับ เดินหน้า AI แห่งชาติ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย ความคืบหน้าในการดำเนินนโยบายสำคัญ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ พร้อมย้ำว่าแม้จะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลในเร็วๆ นี้ แต่ทุกเรื่องที่กระทรวงริเริ่มไว้ต้องมีคนรับไม้ต่อ โดยเฉพาะในประเด็นเศรษฐกิจดิจิทัล การปราบอาชญากรรมไซเบอร์ และการยกระดับระบบราชการเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
ขณะนี้กระทรวงดีอี กำลังผลักดันให้ระบบ สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-Office) ถูกนำไปใช้ในทุกกระทรวงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเปลี่ยนระบบเอกสารแบบเดิมที่ต้องใช้กระดาษ เซ็นด้วยลายมือ และส่งเอกสารทางไปรษณีย์ มาเป็นระบบดิจิทัล 100% โดยระบบ e-Office จะทำงานอยู่บน คลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Service หรือ GDCC) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ทุกหน่วยงานของรัฐใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และลดงบประมาณซ้ำซ้อน
ตอนนี้มีหน่วยงานเข้าร่วมแล้ว 6,434 หน่วย ครอบคลุมทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น มีผู้ใช้งานกว่า 1.89 ล้านคน และตั้งเป้าว่าภายในปี 2568 จะมีผู้ใช้ทะลุ 1 ล้านรายในระบบเดียวกันทั้งหมด
AOC เดินหน้าบูรณาการข้อมูลปราบบัญชีม้า
สำหรับ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC 1441) ซึ่งได้รับรางวัลจากเวทีระดับนานาชาติ นายประเสริฐระบุว่า ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องเร่ง คือการ เชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ บัญชีธนาคาร และข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถระบุตัวตนของผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว
"อนาคตเราจะรู้ได้ทันทีว่าบัญชีไหนเป็นบัญชีม้า โดยไม่ต้องรอกระบวนการสืบสวนแบบเดิมๆ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการปราบอาชญากรรมไซเบอร์และคอลเซ็นเตอร์" นายประเสริฐ กล่าว
ผลักดันกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล
นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงได้เร่งเดินหน้า ร่างกฎหมายสำคัญหลายฉบับ ได้แก่ 1.ร่าง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ ฉบับใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงรายละเอียดโดยปลัดกระทรวง และเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเร็ว ๆ นี้ 2.ร่าง พ.ร.บ.อุตุนิยมวิทยา ที่ผ่านการพิจารณาของกระทรวงแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ 3.ร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. ... ซึ่งจัดทำโดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ. หรือ ETDA)
"กฎหมายเหล่านี้มีความสำคัญในการรองรับสภาพเศรษฐกิจดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และจะเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐในการกำกับดูแลธุรกิจแพลตฟอร์มให้เป็นธรรม โปร่งใส และทันสมัย" นายประเสริฐ กล่าว
บอร์ด AI ต้องไปต่อไม่ว่ารัฐบาลไหน
ประเด็นสำคัญที่ยังคั่งค้าง คือการประชุมของคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ บอร์ด AI แห่งชาติ ซึ่งมีการประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง และเตรียมประชุมครั้งที่ 3 ในเดือนกันยายน 2568
แม้การเมืองอาจเปลี่ยนผ่าน นายประเสริฐ ย้ำว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลใหม่ ก็จำเป็นต้องตั้งบอร์ดนี้ให้เดินหน้าต่อ เพราะ AI คือเทคโนโลยีที่กลายเป็น โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ไปแล้ว
บอร์ด AI ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่มันคือยุทธศาสตร์ของประเทศ
NT–ไปรษณีย์ไทย เร่งปรับตัว-ลดขาดทุน
ด้านรัฐวิสาหกิจ นายประเสริฐ กล่าวว่า บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ยังอยู่ในภาวะขาดทุน โดยเฉพาะธุรกิจโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์พื้นฐาน ขณะที่บริษัทไปรษณีย์ไทยยังคงมีกำไรเล็กน้อย
กระทรวงจึงได้สั่งให้ NT รายงานผลประกอบการต่อรัฐเป็นรายเดือน พร้อมทั้งต้องเร่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ และบริการดิจิทัลรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สามารถประเมินผลงานซีอีโอได้อย่างเป็นรูปธรรม
คลาวด์ความมั่นคงระดับสูงต้องอยู่ภาครัฐ
อีกหนึ่งเรื่องที่กระทรวงให้ความสำคัญ คือการดูแล ข้อมูลอ่อนไหวระดับสูง เช่น บัตรประชาชน เลข 13 หลัก ซึ่งจะต้องจัดเก็บไว้ในดาต้าเซ็นเตอร์ของรัฐเท่านั้น โดยเฉพาะในระบบคลาวด์ระดับ 4-5 ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ และห้ามเอกชนเข้าไปเกี่ยวข้องโดยไม่มีการกำกับ
บุคลากรดิจิทัลยังต่ำ กดดันปฏิรูปการศึกษา
นายประเสริฐ เตือนว่า ประเทศไทยยังมี บุคลากรด้านดิจิทัลในสัดส่วนที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว และจะกลายเป็นจุดอ่อนในระยะยาวหากไม่เร่งปฏิรูปการศึกษา โดยเสนอว่า ควรบรรจอวิชาเกี่ยวกับ AI และดิจิทัลตั้งแต่ระดับประถม มัธยม จนถึงอาชีวศึกษา
ถึงผมจะต้องเก็บกระเป๋าออกจากตำแหน่งในไม่ช้า แต่ทุกเรื่องที่เริ่มไว้ ต้องมีคนรับไม้ต่อ ประเทศไทยจะหยุดอยู่กับที่ไม่ได้
อนึ่งกระแสข่าวในขณะนี้ คาดว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล จะตั้ง ศุภมาส อิศรภักดี อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัฒกรรม (อว.) เป็นรมว.ดีอี ภายใต้รัฐบาลภูมิใจไทย


