เซ็นเซอร์ AI พื้นรองเท้าอัจฉริยะ อนาคตอุปกรณ์สวมใส่ชี้วัดสุขภาพ

ปัจจุบันหลายท่านคงเริ่มคุ้นเคยกับอุปกรณ์สวมใส่ที่มีคุณสมบัติชี้วัดสุขภาพกันมากขึ้น หนึ่งในอุปกรณ์เด่นที่ใช้งานกันทั่วไปคือ สมาร์ทวอช สำหรับตรวจอัตราการเต้นหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด คุณภาพการนอน ไปจนติดตามรอบเดือน ช่วยให้เราสามารถติดตามดูแลรักษาสุขภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

ล่าสุดเราจะล้ำไปอีกขั้นด้วยพื้นรองเท้าอัจฉริยะที่จะช่วยตรวจการเดินแบบเรียลไทม์

 

 

เซ็นเซอร์ AI ที่ช่วยตรวจสอบรูปแบบการเดิน

 

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Ohio State University กับการคิดค้นพื้นรองเท้าอัจฉริยะ ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ AI เพื่อตรวจสอบท่วงท่าและรูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงนำไปสู่โรคต่างๆ

 

ตัวอุปกรณ์มีกลไกสำคัญอยู่ที่เซ็นเซอร์วัดแรงดันขนาดเล็ก 22 ตัวที่ติดตั้งใต้พื้นรองเท้า ครอบคลุมตั้งปลายไปจนถึงส้นเท้า โดยมี AI ช่วยวัดแรงกดและสถานการณ์เคลื่อนไหวของผู้ใช้งานจากในสถานะต่างๆ เช่น นั่ง ยืน เดิน วิ่ง ย่อตัว ไปจนออกกำลังกายได้โดยละเอียด

 

ตัวเซ็นเซอร์รองรับการใช้งานเป็นระยะเวลานานและมีอัตราความทนทานสูง สามารถใช้งานต่อเนื่องถึง 180,000 รอบได้โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพ ตัวเซ็นเซอร์สามารถตรวจวัดท่าการยืน ท่วงท่าการเดิน ไปจนการลงน้ำหนักแต่ละก้าวได้อย่างละเอียดแม่นยำ และสามรถเก็บข้อมูลได้อย่างรอบด้าน

 

พื้นรองเท้าอัจฉริยะนี้สามารถใช้ในการตรวจสอบอาการผิดปกติและวินิจฉัยโรคได้อย่างหลากหลาย เช่น ตรวจสอบความผิดปกติของแรงกดที่เท้าซึ่งอาจเป็นแผลเบาหวาน, ค้นหาความผิดปกติในการทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อกรณีบาดเจ็บหรืออักเสบ ไปจนความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวจากระบบประสาทต่างๆ

 

นี่จึงถือเป็นอุปกรณ์สวมใส่ชิ้นใหม่ที่อาจช่วยวินิจฉัยสุขภาพของเราได้ในอนาคต

 

 

พื้นรองเท้าอัจฉริยะ อุปกรณ์สวมใส่ที่จำเป็น

 

หลายท่านอาจเกิดข้อสงสัยว่าพื้นรองเท้าอัจฉริยะทำได้ขนาดนั้นจริงหรือ คำตอบคือ เป็นไปได้สูง เนื่องจากท่าทางการเดินจัดเป็นอีกหนึ่งการแสดงออกที่ละเอียดอ่อน เป็นกระบวนการทางกลศาสตร์ที่มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและสรีระ ซึ่งสามารถบ่งบอกและชี้วัดสุขภาพของแต่ละคนได้

 

การยืนบ่งบอกถึงปัญหาด้านโครงสร้างร่างกาย ทั้งการยืนตัวตรง การลงน้ำหนักขาแต่ละข้าง หรือแรงกดล้วนบ่งบอกปัญหาเชิงกระดูกและกล้ามเนื้อ การเดินทั้งการก้าวสั้น กระตึก ลากเท้า หรือโคลงเคลง ล้วนเป็นตัวชี้วัดอาการของระบบประสาทและสมอง การวิ่งก็สามารถประเมินข้อเข่า หลอดเลือด และหัวใจได้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการวิเคราะห์รูปแบบการยืน เดิน และขยับตัวของแต่ละคนเป็นเรื่องยาก จากการเติบโต เลี้ยงดู สภาพแวดล้อม และสรีระ ทำให้คนเรามีรูปแบบการย่างก้าวมากมายเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่จึงเป็นส่วนที่ถูกละเลยและไม่ได้รับความเอาใจใส่ได้ง่าย ทั้งจากตัวคนไข้เองหรือหมอที่ทำการรักษา

 

แต่ด้วยการติดตั้ง AI ลงบนพื้นรองเท้าอัจฉริยะ ที่จะเริ่มต้นจากการเรียนรู้รูปแบบการเดินของผู้ใช้งาน จากนั้นจึงเริ่มวิเคราะห์แนวโน้มความเป็นไปได้ของอาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อีกทั้งเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงผิดปกติที่บางครั้งเราอาจไม่ได้รู้ตัวหรือใส่ใจ ก็สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ผ่านระบบบลูทูธ เพื่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ

 

สิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยวิเคราะห์ท่วงท่าการเดินและเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ โดยเฉพาะในประเทศไทย ข้อมูลจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ไทยมีประชากรที่มีปัญหาสุขภาพส่งผลกระทบกับการเคลื่อนไหวมีแนวโน้มมากขึ้นคิดเป็น 4.7% ของประชากร และมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

 

นี่จึงเป็นเหตุผลให้นี่เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีน่าสนใจที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

จริงอยู่พื้นรองเท้าอัจฉริยะยังคงอยู่ในระหว่างกำลังวิจัย จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมหากต้องการให้สะดวกจนนำไปใช้งานจริง แต่ทางทีมวิจัยตั้งเป้าว่านี่จะไม่ใช่เพียงอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยโรค แต่อาจช่วยในการออกกำลังและกายภาพบำบัดด้วยท่าทางที่ถูกต้องอีกด้วย

 

โดยคาดว่ากว่าจะสามารถพัฒนาให้นำมาใช้งานเชิงพาณิชย์อาจกินเวลาราว 3 – 5 ปี

 

 

 

ที่มา

 

https://www.science.org/doi/10.1126/sciadv.adu1598