posttoday

World ดัน AI ยืนยันตัวตนแยกคนจาก bot สร้างความน่าเชื่อถือออนไลน์

21 พฤษภาคม 2568

World ประเทศไทยผลักดันเทคโนโลยีสแกนม่านตา ยืนยันตัวตนมนุษย์แท้ แก้ปัญหาบอต-Deepfake หวังสร้างระบบออนไลน์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือในยุค AI ครองโลก

ในยุคที่เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนแทบจะแยกไม่ออกระหว่างมนุษย์จริงกับบอต หรือ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบมนุษย์ ปัญหาการปลอมแปลงตัวตนและการถูกหลอกลวงบนโลกออนไลน์จึงทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

นายภัคพล ตั้งตงฉิน Country Manager ของ World (Thailand) ผู้จัดการ World ประเทศไทยคนแรก ได้ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยี AI ในการยืนยันตัวตน และทำความรู้จักกับโปรเจกต์ World ของ แซม อัลต์แมน ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบที่สามารถแยกแยะมนุษย์ออกจาก AI ได้อย่างแท้จริง

World ดัน AI ยืนยันตัวตนแยกคนจาก bot สร้างความน่าเชื่อถือออนไลน์

นายภัคพลกล่าวว่า ปัจจุบันเราเริ่มเห็นการใช้ AI และบอตในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Deepfake ที่มีความสมจริงสูง หรือแม้แต่การใช้ AI ในการสนทนาออนไลน์จนยากที่จะแยกแยะว่าเป็นมนุษย์จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีการนำ AI และบอตไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การกว้านซื้อบัตรคอนเสิร์ตเพื่อนำไปขายต่อ การใช้บอตในการแข่งขันเกม หรือแม้แต่การปั่นคะแนนโหวตในการเลือกตั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยบนโลกออนไลน์อย่างมาก

Orb จับภาพและประมวลผลรูปภาพเพื่อยืนยันความมีอัตลักษณ์ โดยไม่จำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลภาพหรือข้อมูลอื่นของคุณ

จากปัญหาดังกล่าว แซม อัลต์แมน จึงได้ริเริ่มโปรเจกต์ World ขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาระบบยืนยันตัวตนที่สามารถแยกมนุษย์ออกจาก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากศึกษาและทดลองวิธีการยืนยันตัวตนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับใบหน้า เสียง หรือลายนิ้วมือ พบว่ายังมีข้อจำกัดและสามารถถูกปลอมแปลงได้ในที่สุด ทีมงานจึงค้นพบว่า การสแกนม่านตา เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่มีความแม่นยำและปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากม่านตาของแต่ละบุคคลมีความซับซ้อนและมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน แม้แต่ฝาแฝดก็ยังมีลวดลายม่านตาที่แตกต่างกัน
World ดัน AI ยืนยันตัวตนแยกคนจาก bot สร้างความน่าเชื่อถือออนไลน์

World จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ที่เรียกว่า Orb ซึ่งทำหน้าที่สแกนม่านตาของผู้ใช้งาน และแปลงข้อมูลดังกล่าวเป็นรหัสที่ไม่ซ้ำกันเรียกว่า Iris Code โดยรหัสนี้จะถูกเข้ารหัสและจัดเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งานเอง ที่สำคัญคือภาพม่านตาต้นฉบับจะถูกลบทิ้งทันทีหลังจากการสร้าง Iris Code เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

เมื่อผู้ใช้งานได้รับการยืนยันตัวตนผ่าน Orb แล้ว จะได้รับสิ่งที่เรียกว่า World ID ซึ่งเปรียบเสมือน "Digital Passport" ที่สามารถใช้ยืนยันความเป็นมนุษย์บนแพลตฟอร์มและบริการต่างๆ ที่เข้าร่วมในระบบนิเวศของ World โดย World ID นี้มีความพิเศษตรงที่เป็นมาตรฐานสากล ไม่ผูกติดกับประเทศใดประเทศหนึ่ง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ยืนยันตัวตนได้ทั่วโลก

World ดัน AI ยืนยันตัวตนแยกคนจาก bot สร้างความน่าเชื่อถือออนไลน์

World ประเทศไทย ชูเทคโนโลยี AI ยืนยันตัวตน แยกมนุษย์จากบอต รับยุค Digital Identity

นายภัคพลกล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน World ได้มีการติดตั้ง Orb เป็นจำนวนมากทั่วโลก และเปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้ารับการยืนยันตัวตนได้ฟรี โดยมีเป้าหมายที่จะขยายจำนวนผู้ใช้งาน World ID ให้ครอบคลุมประชากรโลกในวงกว้าง เพื่อสร้าง "โลกอีกใบ" บนอินเทอร์เน็ตที่มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานทุกคนเป็นมนุษย์จริง

นอกจากระบบยืนยันตัวตน World ID แล้ว World ยังได้พัฒนา World App ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานสามารถค้นหาตำแหน่งของ Orb และเข้าถึงบริการต่างๆ ในระบบนิเวศของ World ได้ รวมถึง World Chain ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่รองรับการทำธุรกรรมต่างๆ ในระบบ และ World Coin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนเข้ารับการยืนยันตัวตน และเป็นสกุลเงินหลักในการทำธุรกรรมภายในระบบนิเวศของ World

สำหรับในประเทศไทย นายภัคพลเปิดเผยว่า World กำลังมีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน โดยมีบริษัทขนาดใหญ่ 3 แห่งที่กำลังจะลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อนำเทคโนโลยีของ World ไปประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม Ticketing เพื่อแก้ปัญหาการกว้านซื้อบัตรคอนเสิร์ตด้วยบอต และ Community Forum เพื่อป้องกันการปั่นข่าวสารด้วย AI นอกจากนี้ World ยังมีแผนที่จะสนับสนุนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ชาวไทยให้สร้างแอปพลิเคชันบน World Network อีกด้วย

"เป้าหมายของเราในประเทศไทยภายในสิ้นปีนี้คือ การออนบอร์ดผู้ที่มา Verified ผ่าน Orb ให้ได้ 2 ล้านคน และมีพาร์ทเนอร์ที่ใช้ World ID อย่างน้อย 5 ราย" นายภัคพลกล่าว พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามจาก AI และบทบาทของ World ในการสร้างโลกออนไลน์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับทุกคน

ในช่วงท้าย นายภัคพลกล่าวว่า ทีมงาน World ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาช่วยแก้ไขปัญหาการถูกหลอกลวงบนโลกออนไลน์ในประเทศไทย และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมโดยรวม

World ดัน AI ยืนยันตัวตนแยกคนจาก bot สร้างความน่าเชื่อถือออนไลน์

เปิดให้บริการแล้วในไทย – เตรียมพร้อมสู่ยุค “Human-Only Internet”

ในประเทศไทย ขณะนี้เริ่มมีการตั้ง Orb ในหลายพื้นที่เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้ารับการสแกนม่านตาและสร้าง World ID ได้ โดย World กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทใหญ่ในไทยเพื่อประยุกต์ใช้ World ID ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น:

ระบบจองตั๋วคอนเสิร์ตที่มักถูกบอทกวาดซื้อภายในเสี้ยววินาที

ฟอรั่มและคอมมิวนิตี้ออนไลน์ ที่ต้องการกรองความคิดเห็นจากผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์จริง

และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ต้องการยกระดับความน่าเชื่อถือของผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ ยังมีแผนตั้ง “กองทุนสนับสนุนนักพัฒนาไทย” เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับ World Network โดยตรง ให้คนไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างอินเทอร์เน็ตใหม่ที่ปลอดบอทในระดับสากล