เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐเตือนจีนกำลังเสริมสร้างกองทัพให้มีศักยภาพยึดไต้หวัน
ข่าวกรองสหรัฐระบุทางการจีนพยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มแสนยานุภาพของกองทัพให้สามารถบุกยึดไต้หวันได้
สำนักข่าว CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองระดับสูงของสหรัฐเผยกับสภาคองเกรสว่า ประชาคมข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐเชื่อว่าจีนกำลังเสริมสร้างกองทัพให้มีศักยภาพในการบุกยึดไต้หวัน
แอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติเผยต่อคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภาว่า ภัยคุกคามต่อไต้หวันในขณะนี้จนถึงปี 2030 เป็นภัยคุกคาม “เฉียบพลัน”
“เรามองว่า (จีน) กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่กองทัพสามารถเข้ายึดไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือการแทรกแซงของเรา” เฮนส์กล่าวโดยปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมต่อสาธารณะเกี่ยวกับช่วงเวลาของประชาคมข่าวกรอง
ทว่าเฮนส์และ สกอตต์ แบร์ริเออร์ หัวหน้าสำนักข่าวกรองกลาโหมสหรัฐเตือนว่า สหรัฐยังไม่ทราบว่าประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนจะนำบทเรียนอะไรจากการทำสงครามของรัสเซียในยูเครนและความช่วยเหลือจากตะวันตกที่ส่งไปยังเคียฟมาใช้ และการตีความเหตุการณ์ในวิกฤตดังกล่าวของสีจิ้นผิงและพรรคคอมมิวนิสต์อาจกระทบกับช่วงเวลาและแนวทางต่อไต้หวัน
เฮนส์และแบร์ริเออร์กล่าวอีกว่า สหรัฐเชื่อว่าหากเป็นไปได้จีนจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางทหารในไต้หวัน
“ผมเชื่อว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนจะไม่ใช้กำลัง” แบร์ริเออร์กล่าว “ผมว่าพวกเขาจะค่อยๆ ทำอย่างสันติ” และกว่าต่อว่า ไต้หวันก็ได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากความขัดแย้งในยูเครนซึ่งอาจทำให้ไต้หวันนำมาใช้ปกป้องตัวเองจากจีน
“มีบางอย่างที่เราสามารถทำได้กับไต้หวัน” แบร์ริเออร์เผย “ผมคิดว่าพวกเขากำลังเรียนรู้บทเรียนที่น่าสนใจมากจากความขัดแย้งในยูเครน เช่น ความเป็นผู้นำมีความสำคัญอย่างไร กลยุทธ์หน่วยย่อยมีความสำคัญเพียงใด หน่วยทหารชั้นประทวนสำคัญอย่างไร และการฝึกที่มีประสิทธิภาพจริงๆ กับระบบอาวุธที่เหมาะสม และมีอะไรบ้างที่ระบบเหล่านั้นกับคนที่เหมาะสมสามารถทำเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้น”
เมื่อวันเสาร์ บิลล์ เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอเผยว่า ความขัดแย้งของรัสเซียในยูเครนกระทบกับการคำนวณของจีนว่าจะเข้าควบคุมไต้หวันเมื่อไรและอย่างไร
“เห็นได้ชัดว่าผู้นำจีนพยายามมองบทเรียนที่ได้จากยูเครนอย่างรอบคอบเพื่อนำมาใช้กับเป้าหมายของตัวเองในไต้หวัน” เบอร์นส์กล่าว “ผมไม่คิดว่ามันจะกัดเซาะความมุ่งมั่นในการเข้าควบคุมไต้หวันของสีเมื่อเวลาผ่านไป แต่ผมคิดว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่ส่งผลต่อการคำนวณของพวกเขาเกี่ยวกับวิธีการและเวลาที่พวกจะลงมือทำ”
REUTERS/Kevin Lamarque