posttoday

อินโดหวังเป็นเจ้าทัพเรือแห่งอาเซียนภายใน 10 ปี

08 พฤษภาคม 2565

อินโดนีเซียตั้งเป้ามีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในทศวรรษนี้

1. Asia Pacific Defense Journal รายงานว่าปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียมีแผนที่จะเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของประเทศ โดยตั้งเป้าที่จะทำให้กองทัพเรืออินโดนีเซียมีเรือรบพร้อมรบถึง 50 ลำ และก้าวขึ้นเป็นกองทัพเรือที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้

2. อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากรัฐบาลรวมถึงการจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงกลาโหมด้วย โดยในปีงบประมาณ 2022 กระทรวงได้รับงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 133.9 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 317,000 ล้านบาท

3. กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียยังวางแผนที่จะจัดซื้อเรือรบเพิ่มเติมหลายลำในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งประธานาธิบดีโจโค วิโดโด และกระทรวงการคลังไฟเขียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

4. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อเดือนก.พ. ว่ากระทรวงกลาโหมยืนยันการสั่งซื้อเรือฟริเกต Arrowhead 140 จำนวน 2 ลำจากสหราชอาณาจักร, เรือฟริเกตชั้น FREMM จำนวน 6 ลำ และเรือฟริเกตชั้น Maestrale ที่ปรับปรุงใหม่จำนวน 2 ลำจากอิตาลี ขณะที่กำลังหารือเพื่อจัดหาเรือฟริเกตชั้น Mogami จำนวน 8 ลำจากญี่ปุ่น

5. นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสเปิดเผยในเดือนเดียวกันว่าอินโดนีเซียมีความต้องการที่จะสั่งซื้อเรือดำน้ำ Scorpene ของฝรั่งเศส จำนวน 2 ลำ

6. โดยเรือเหล่านี้จะมาประจำการแทนที่เรือฟริเกตชั้น Ahmad Yani จำนวน 5 ลำที่มีอยู่ นอกจากนี้กระทรวงจะเสริมการทำงานของเรือฟริเกตชั้น Martadinata จำนวน 2 ลำในปัจจุบันด้วย

7. Defence View ชี้ว่านอกจากเรือฟริเกตขีปนาวุธที่ทรงอานุภาพอย่างยิ่งแล้ว อินโดนีเซียยังมีกองเรือดำน้ำขนาดใหญ่ พร้อมด้วยความสามารถในการสร้างเรือดำน้ำของตนเองโดยอาศัยการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองทัพเรือที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังยกให้กองทัพเรือไทยติดโผด้วยเช่นกัน โดยระบุว่าเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นเจ้าของเรือบรรทุกเครื่องบินของตนเอง

8. Naval News ยังระบุว่ากองทัพเรืออินโดนีเซียวางแผนที่จะจัดหาเรือขีปนาวุธติดอาวุธ Naval Strike Missile (NSM) และมีแผนที่จะจัดหาเรือพิฆาต เรือลาดตระเวน และเรือดำน้ำเพิ่มเติมอีกด้วย

9. อย่างไรก็ตาม Asia Maritime Transparency Initiative (AMTI) ระบุว่าขณะนี้กองทัพเรืออินโดนีเซียดำเนินการเรือมากกว่าร้อยลำ ซึ่งทำให้มีกองเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ขัดขวางการเสริมความแข็งของกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อ, โควิด-19, สงครามในยูเครน ซึ่งอาจขัดขวางแผนที่วางไว้ล่วงหน้า

10. ในปี 2021 GFP จัดอันดับให้กองทัพเรืออินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 16 ตามหลังเยอรมนี อิหร่าน อียิปต์ และอิตาลีเพียงไม่กี่คะแนน และนำหน้าซาอุดีอาระเบีย สเปน ออสเตรเลีย และอิสราเอล จากทั้งหมด 140 ประเทศทั่วเอเชีย อเมริกาใต้ ยุโรป อเมริกาเหนือ โอเชียเนีย และแอฟริกา ตามรายงานของ Young Pioneer Tours

Photo by Antara Foto/M Risyal Hidayat/via REUTERS