posttoday

จับตา 'ทรานส์นีสเตรีย' ดินแดนที่โลกลืมใต้อิทธิพลรัสเซีย

27 เมษายน 2565

'ทรานส์นีสเตรีย' อยู่ตรงไหน และมีความสำคัญอย่างไรกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

- ทรานส์นีสเตรีย (Transnistria) เป็นภูมิภาคเล็กๆ มีประชากรประมาณ 470,000 คน มีพรมแดนติดกับยูเครนทางตะวันตก ซึ่งได้ประกาศแยกตัวจากมอลโดวาเป็นสาธารณรัฐหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย แม้จะมีรัฐรรมนูญ การทหาร สกุลเงิน และธงเป็นของตัวเองแต่ไม่ได้รับกรยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ

- ในทางการแล้วยังถือว่าทรานส์นีสเตรียเป็นส่วนหนึ่งของ "มอลโดวา" โดยมอลโดวาประกาศสถานะให้เป็นเขตปกครองตนเอง ซึ่งในภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย มีทหารรัสเซียประจำการอยู่ราว 1,500 นาย ตั้งแต่ปี 1995 ตามข้อตกลงสงบศึก ขณะที่รัสเซียอ้างว่ามีหลักฐานว่าประชาชนที่พูดภาษารัสเซียในภูมิภาคนี้กำลังถูกกดขี่ ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เคยใช้ข้ออ้างเดียวกันนี้ก่อนที่จะบุกยูเครน

ท่ามกลางการจับตามองว่าทรานส์นีสเตรียอาจถูกดึงเข้าสู่สงครามรัสเซีย-ยูเครน

- ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว Interfax และ TASS ของรัสเซียรายงานโดยอ้างคำพูดของรุสตัม มินเนกาเยฟ รองผู้บัญชาการกองทัพภาคกลางของรัสเซียว่าการเข้าควบคุมทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นการเชื่อมคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อปี 2014 กับภูมิภาคดอนบัส จะช่วยให้รัสเซียเข้าถึงภูมิภาคทรานส์นีสเตรียในมอลโดวาได้

จับตา 'ทรานส์นีสเตรีย' ดินแดนที่โลกลืมใต้อิทธิพลรัสเซีย

- เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้มีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งในทรานส์นีสเตรีย ขณะที่ยังไม่มีฝ่ายใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว โดยกระทรวงต่างประเทศมอลโดวาระบุว่าการโจมตีดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับความตึงเครียดและคุกคามความมั่นคงของทรานส์นีสเตรีย

- ขณะที่กระทรวงกลาโหมยูเครนมองว่าเป็น "แผนการยั่วยุ" ของรัสเซีย เช่นเดียวกับที่สหรัฐเคยออกคำเตือนก่อนหน้านี้ว่ารัสเซียอาจก่อเหตุและกล่าวโทษฝ่ายตรงข้ามเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีและรุกรานประเทศอื่น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาคดอนบัส

- ตามรายงานของ CNN ระบุว่านักวิเคราะห์บางคนสงสัยว่ารัสเซียมีแผนที่จะใช้ทรานส์นีสเตรียเพื่อประโยชน์ด้านโลจิสติกส์ และใช้เพื่อเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อสร้างทางเดินบนบกเลียบทะเลดำเพื่อยึดเมืองท่าของโอเดสซา

- ก่อนหน้านี้อาเดรียโน โบโซนี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ของ Rane บริษัทด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงกล่าวกับ CNBC โดยเตือนว่าปูตินอาจกำลังพิจารณาเป้าหมายต่อไปของเขา ซึ่งก็คือ "มอลโดวา" ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน โดยระบุว่า "หากความขัดแย้งขยายออกไปนอกยูเครน มอลโดวาก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงมากที่สุด"

- โดยชี้ให้เห็นว่ามอลโดวามีสถานการณ์ที่คล้ายกับยูเครนคือไม่ได้เป็นสมาชิกของ NATO และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (EU) แต่ออดีตสาธารณรัฐโซเวียตแห่งนี้มีประชากรกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ก็อยู่ในทรานส์นิสเตรียที่ปกครองโดยผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย

- โบโซนีมองว่าปูตินอาจรับรองภูมิภาคดังกล่าวเป็นรัฐอิสระก่อนที่จะทำการบุกประเทศ เช่นเดียวกับที่เขาทำกับโดเนตสก์และลูฮันสก์ ก่อนที่จะเปิดปฏิบัติการทางทหารอย่างเต็มรูปแบบในยูเครน หรืออาจสร้างสถานการณ์บางอย่างเพื่อเปิดทางให้เข้าไปแทรกแซง

"สำหรับผมมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่รัสเซียยังไม่รับรองสถานะรัฐอิสระของทรานส์นิสเตรีย อย่างที่ทำกับโดเนตสก์และลูฮันสก์ เมื่อไรก็ตามที่รัสเซียทำเช่นนั้นมันจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าพวกเขากำลังคิดที่จะนำความขัดแย้งไปยังมอลโดวา" โบโซนีกล่าว

Photo by Sergei GAPON / AFP