posttoday

มาอีกแล้ว! โอมิครอนพันธุ์ผสม XE แพร่เชื้อได้มากกว่า BA.2

02 เมษายน 2565

อนามัยโลกเตือนว่าโควิดสายพันธุ์ผสม XE อาจเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ XE แพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่แพร่เชื้อได้มากที่สุดในขณะนี้ถึง 10%

รายงานระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ขององค์การอนามัยโลกฉบับล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมาระบุว่า Covid-19 สายพันธุ์ XE เป็นลูกผสมระหว่างโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1 และสายพันธุ์ BA.2 หรือโอมิครอนล่องหนที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้

องค์การอนามัยโลกระบุอีกว่า XE ยังคงเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนต่อไปจนกว่าองค์การอนามัยโลกจะตรวจพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของการแพร่เชื้อ ลักษณะอาการป่วย รวมทั้งความรุนแรงของโรคของสายพันธุ์ลูกผสมดังกล่าว

องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า จะติดตามอย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ลูกผสม เช่น XE อย่างใกล้ชิด และจะอัพเดตข้อมูลเมื่อมีหลักฐานเพิ่มเติม

สายพันธุ์ XE ถูกพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้วกว่า 600 ราย

ซูซาน ฮอปกินส์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของหน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร์ (UK HSA) เผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปเกี่ยวกับคามสามารถในการแพร่เชื้อ ความรุนแรงของอาการ หรือประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์ XE

ศาสตราจารย์ฮอปกินส์เผยอีกว่า สายพันธุ์ลูกผสมไม่ใช่เรื่องแปลกและมักจะสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ นอกจากสายพันธุ์ XE แล้ว องค์การอนามัยโลกยังเฝ้าจับตาสายพันธุ์ลูกผสมที่ชื่อว่า XD ซึ่งเกิดจากการผสมกันของสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน ซึ่งพบส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส เดนมาร์ก เบลเยียม ทว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานใหม่ที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์ XD แพร่เชื้อได้รวดเร็วหรือมีความรุนแรง

REUTERS/Kim Kyung-Hoon

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025