posttoday

นักฆ่าพลีชีพ 'โดรนกามิกาเซ' อเมริกัน-รัสเซียของใครจะแน่กว่ากัน

17 มีนาคม 2565

เทียบจะๆ โดรนสังหารที่สหรัฐจะส่งให้ยูเครน และโดรนรัสเซียที่ตกลงสู่กรุงเคียฟ

เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยต่อ NBC News ว่าเมื่อวันที่ 16 มี.ค. รัฐบาลสหรัฐประกาศแผนการช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครน ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงการจัดหาโดรนนักฆ่ามากกว่า 100 ลำที่ผลิตในสหรัฐ ซึ่งเป็นขีปนาวุธนำวิถีล้ำสมัยที่สามารถโจมตีกองทหารรัสเซียได้อย่างแม่นยำจากระยะไกล

โดยขีปนาวุธดังกล่าวมี 2 รุ่นด้วยกันคือ Switchblade 300 และ Switchblade 600 จากผู้ผลิต AeroVironment ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าสหรัฐจะจัดหารุ่นใดให้แก่ยูเครน หรืออาจให้ทั้ง 2 รุ่นก็เป็นไปได้

ด้านบริษัทผู้ผลิตออกแถลงการณ์เพียงว่า "เรายืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรและประเทศอธิปไตย ในการใช้สิทธิของพวกเขาเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนและชีวิตของพวกเขา เมื่อสิทธิขั้นพื้นฐานถูกคุกคาม AeroVironment ยืนเคียงข้างประชาชนชาวยูเครนและประเทศสมาชิก NATO ทั้งหมด"

โดรนสหรัฐโหดแค่ไหน

AeroVironment Switchblade เป็นโดรนยุทโธปกรณ์ขนาดเล็กที่พัฒนาโดย AeroVironment ซึ่งถูกออกแบบให้เป็น "โดรนกามิกาเซ" (kamikaze drone) เป็นอาวุธแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งมีการติดตั้งกล้อง ระบบนำทาง ระเบิด และสามารถตั้งโปรแกรมให้โจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปเป็นไมล์โดยอัตโนมัติ สามารถบังคับทิศทางรอบๆ เป้าหมายได้จนกว่าจะถึงเวลาโจมตี โดยสามารถพุ่งชนและทำลายเป้าหมายด้วยหัวรบระเบิด

Switchblade มีขนาดเล็กพอที่จะใส่ในกระเป๋าเป้ และสามารถเปิดตัวได้จากทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งประกอบได้ด้วย 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Switchblade 300 และ Switchblade 600

โดรนนักฆ่าของสหรัฐมีพิสัยไกล 10 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดกว่า 100 ไมล์ต่อชั่วโมง เพดานบิน 15,000 ฟุต สนนราคาอยู่ที่ 6,000 เหรียญสหรัฐ

โดย Switchblade 300 ได้รับการออกแบบมาสำหรับจู่โจมผู้คน มีความยาว 2 ฟุต หนัก 6 ปอนด์ ทำให้มีขนาดเล็กและเบาเพียงพอที่ทหารเพียงนายเดียวจะสามารถพกพาได้ สามารถควบคุมได้ไกลถึง 6.2 ไมล์ แต่ใช้งานได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น ทำให้ไม่เหมาะกับการสอดแนม แต่มีประโยชน์สำหรับการจู่โจมเป้าหมายระยะไกล โดยหัวรบมีประจุระเบิดเทียบเท่ากับระเบิดขนาด 40 มม. ขนาดที่เล็กและการบินที่เงียบทำให้ยากต่อการตรวจจับหรือพยายามสกัดกั้น

ส่วน Switchblade 600 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า มีไว้สำหรับทำลายรถถังและยานหุ้มเกราะอื่นๆ ด้วยหัวรบที่แข็งแรง รุ่นนี้มีน้ำหนัก 50 ปอนด์ ซึ่งบินได้นาน 40 นาที สูงสุด 50 ไมล์ และโจมตีด้วยความเร็วถึง 115 ไมล์ต่อชั่วโมง

Switchblade สามารถยกเลิกภารกิจได้กลางคัน หากสถานการณ์เปลี่ยนไปหลังจากเปิดตัว หมายความว่ามันสามารถเปลี่ยนไปโจมตีเป้าหมายรองหรือทำลายตัวเองได้โดยไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายหรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน

โดยแหล่งข่าวกล่าวกับ NBC กองทัพสหรัฐเคยใช้ Switchblade ในการต่อสู้ในอัฟกานิสถานมาแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวในต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อ Switchblade จากสหรัฐ

โดรนกามิกาเซของรัสเซีย

The National News ระบุว่าตอนนี้กองทัพรัสเซียเข้าประชิดกรุงเคียฟ เมืองหวงของยูเครน มากพอที่จะยิงโดรนกามิกาเซพิสัยใกล้ที่อาจโจมตีประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้เลย

ขณะที่มีรายงานระบุว่าพบโดรนสังหาร Aero Kub ตกลงสู่ย่านเก่าแก่ในกรุงเคียฟแล้ว ใกล้กับอาคารราชการและสถานทูต อาจหมายความว่ารัสเซียกำลังตามล่าเป้าหมายบางอย่างในเคียฟอยู่

โดรนกามิกาเซขนาดเล็กของรัสเซียได้รับออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่นิ่ง เคลื่อนที่ได้ไกลสูงสุด 40 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตรวจจับได้ยาก ติดตั้งกล้องและวัตถุระเบิดหนัก 1 กก. เคยมีรายงานว่ากองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จในการใช้โดรนรุ่นนี้โจมตีผู้ก่อความไม่สงบในเมืองอิดลิบ ประเทศซีเรีย

โดรนสังหาร Aero Kub สร้างขึ้นโดย Kalashnikov ซึ่งเป็นที่รู้จักจากปืนไรเฟิล AK-47 โดยโดรนดังกล่าวเพิ่งเริ่มปฏิบัติการเมื่อปีที่แล้ว โดรนสามารถสอดแนมตำแหน่งได้ โจมตีเป้าหมายที่อยู่นิ่งได้ด้วยพลังระเบิดขนาดใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสามารถทำลายยานหุ้มเกราะได้

โดรนจะถูกควบคุมผ่านวิดีโอที่ส่งกลับมาแบบเรียลไทม์ ดังนั้นจะขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ควบคุม และความคล่องแคล่วของโดรนในการไปถึงเป้าหมาย โดยระยะเวลาบินค่อนข้างสั้นคือ 30 นาที หมายความว่าผู้ควบคุมโดรนจะต้องอยู่ใกล้กับเป้าหมายพอสมควร

แซม แครนนี่-อีแวนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพรัสเซีย กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้โดรนนี้จู่โจมผู้นำยูเครน หากสามารถหาตัวเขาพบ แต่ถ้านั่นคือเป้าหมายของรัสเซียจริงๆ แซมมองว่ารัสเซียน่าจะใช้ขีปนาวุธร่อนที่มีความซับซ้อนกว่านี้

พร้อมเสริมว่ารัสเซียอาจใช้ Aero Kub สำหรับการเฝ้าระวังเท่านั้น "พวกเขาไม่มีวิธีการลาดตระเวนที่สะดวกกว่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงอาจใช้สิ่งที่มีอยู่เพื่อให้ได้ภาพว่าเกิดอะไรขึ้น"

เจเรมี บินนี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโดรนจาก Jane's Defense Weekly ชี้ว่าโดรนดังกล่าวบินได้ไม่นานนักและมีหัวรบที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งเหมาะกับเป้าหมายที่อยู่นิ่งเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการสังหาร เนื่องจากคุณจะต้องแน่ใจว่าเป้าหมายยังคงอยู่ที่เดิมทุกประการ

Photo by REUTERS/Gleb Garanich