posttoday

เขตการค้าใหญ่ที่สุดในโลก RCEP เริ่มต้น ม.ค. ปีหน้า

03 พฤศจิกายน 2564

ออสเตรเลียเผยข้อตกลงการค้า RCEP จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม หลัง 15 ชาติให้สัตยาบันข้อตกลง จากการรายงานของสำนักข่าว Kyodo

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม ตามการเปิดเผยของรัฐบาลออสเตรเลีย โดยข้อตกลงดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกในการเปิดเสรีการค้าและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในเอเชียและแปซิฟิก

RCEP ที่มีสมาชิก 15 ประเทศ ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่มีสหรัฐรวมอยู่ด้วย ประเทศสมาชิก 15 ประเทศมีสัดส่วนประมาณ 30% ของประชากรโลก (2,200 ล้านคน) และ 30% ของ GDP โลก (26.2 ล้านล้านดอลลาร์) ณ ปี 2020 ทำให้เป็นกลุ่มการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

แดน ทีแฮน (Dan Tehan) รัฐมนตรีกระทรวงการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของออสเตรเลีย ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารว่า สนธิสัญญามีผลบังคับใช้ทันทีที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ให้สัตยาบัน

“RCEP จะมีผลบังคับใช้ 60 วันหลังจากการให้สัตยาบันโดยอย่างน้อย 6 รัฐในอาเซียนและอย่างน้อย 3 รัฐนอกอาเซียน หมายหลักที่ว่านั้นบรรลุถึงในวันที่ 2 พฤศจิกายน2021 โดยมีการให้สัตยาบันโดยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งจะเป็นการปูทางให้ RCEP เข้าสู่ มีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มกราคม 2022” คำแถลงระบุ

Kyodo รายงานว่า RCEP ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าร้อยละ 91 และสร้างมาตรฐานกฎระเบียบด้านการลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา และอีคอมเมิร์ซ ท่ามกลางแนวปฏิบัติทางการค้าอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานภายในเขตการค้าเสรี ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของผลผลิต การค้า และประชากรของโลก

RCEP จัดกลุ่มประเทศสมาชิก 10 ประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม รวมทั้งออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้

RCEP ยังเป็นข้อตกลงการค้าเสรีฉบับแรกระหว่างจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสามในสี่ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า RCEP จะให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญแก่ประเทศที่ลงนาม และยังดึงสถานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจกลับมาสู่เอเชีย โดยที่จีนพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเขียนกฎการค้าสำหรับภูมิภาคนี้ โดยปล่อยให้สหรัฐล้าหลังในด้านเศรษฐกิจ และการเมือง