posttoday

ภัยพิบัติจากโลกร้อนเพิ่มขึ้น 5 เท่าในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา 

03 กันยายน 2564

เผย 50 ปีที่ผ่านมาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้น 5 เท่า 

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เผยว่า ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาภัยพิบัติทางสภาพอากาศ อาทิ น้ำท่วม คลื่นความร้อน ความแห้งแล้ง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เกิดเพิ่มขึ้น 5 เท่า และสร้างความเสียหายมากขึ้น 7 เท่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 2 ล้านคน และสร้างความเสียหายรวมทั้งหมด 3.64 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ  

WMO ตรวจสอบการเสียชีวิตและความเสียหายทางเศรษฐกิจจากสภาพดินฟ้าอากาศ น้ำ และสภาพอากาศสุดขั้วที่เคยเกิดขึ้นกว่า 11,000 ครั้งตั้งแต่ปี 1970-2019 โดยใช้ข้อมูลจากศูนย์วิจัยระบาดวิทยาด้านภัยพิบัติของเบลเยียม

พบว่าในช่วงทศวรรษ 1970 โลกเผชิญภัยพิบัติด้านสภาพอากาศเฉลี่ยปีละ 711 ครั้ง แต่นับตั้งแต่ปี 2000-2009 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มเป็น 3,536 ครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 10 ครั้ง โดยในช่วงทศวรรษ 2010 ตัวเลขลดลงเล็กน้อยเหลือ 3,165 ครั้ง บ่งชี้ว่าภัยพิบัติดังกล่าวเกิดถี่ขึ้นเนื่องจากภาวะโลกร้อน

ส่วนความเสียหายเป็นตัวเงินนั้น ในช่วงทศวรรษ 1970 ภัยพิบัติทางธรรมชาติสร้างความเสียหายทั่วโลกราว 175,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (เมื่อปรับค่าเงินให้เท่ากับค่าเงินของปี 2019) และเพิ่มขึ้นเป็น 1.38 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วงตั้งแต่ปี 2010-2019 ซึ่งเป็นช่วงที่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ มาเรีย เออร์มา พัดถล่มสหรัฐ

ทว่าแม้ว่ามูลค่าความเสียหายและความถี่จะเพิ่มขึ้น แต่ยอดผู้เสียชีวิตจ่อปีลดลงจากมากกว่า 50,000 คนในช่วงทศวรรษ 1970 เหลือราว 18,000 ในช่วงทศวรรษ 2010 ซึ่งบ่งบอกว่าการวางแผนรับมือที่ดีขึ้นได้ผล

รายงานระบุอีกว่า กว่า 91% ของผู้เสียชีวิตกว่า 2 ล้านคนอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา โดยมีเพียงครึ่งหนึ่งของประเทศสมาชิก WMO ซึ่งมีทั้งหมด 193 ประเทศที่มีระบบเตือนภัยล่วงหน้า

เปตเตริ ตาลาส เลขาธิการ WMO เผยว่า “ต้องขอบคุณการปรับปรุงระบบการแจ้งเตือนล่วงหน้าที่ช่วยให้เราลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติเหล่านี้ได้ แต่ข่าวร้ายคือความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

ตาลาสเผยอีกว่า เราจะเห็นสภาพอากาศสุดขั้วมากขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และแนวโน้มเชิงลบนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงศตวรรษหน้า

ทั้งนี้ ภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายเป็นตัวเงินมากที่สุด 5 อันดับนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 ล้วนเป็นพายุเฮอร์ริเคนในสหรัฐ โดยเฮอร์ริเคนแคทรินาเมื่อปี 2005 มีมูลค่าความเสียหายสูงที่สุด 163,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนภัยพิบัติที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุด 5 อันดับแรกอยู่ในแอฟริกาและเอเชีย โดยภัยแล้งในเอธิโอเปียเมื่อปี 1983 และพายุไซโคลนโบลาที่บังกลาเทศในปี 1970 เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 300,000 คน

Photo by Branden Eastwood / AFP (ภาพความเสียหายจากพายุเฮอร์ริเคนไอดาที่ถล่มย่านมัลลิกาฮิลล์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐ)