posttoday

อังกฤษพบเดลตาเพิ่มความเสี่ยงเข้าโรงพยาบาล 2 เท่า 

28 สิงหาคม 2564

เผยติด Covid-19 สายพันธุ์เดลตามีความเสี่ยงจะต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2 เท่า

ผลการวิจัยของอังกฤษซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet Infectious Diseases พบว่า ผู้ที่ติด Covid-19 สายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็น 2 เท่าของผู้ที่ติด Covid-19 สายพันธุ์อัลฟาซึ่งพบครั้งแรกในอังกฤษ

ทีมนักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย Covid-19 จำนวน 43,338 คนในอังกฤษระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-23 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งสถานะการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 การรักษาพยาบาล การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และข้อมูลอื่นๆ โดยในจำนวนนี้ 1.8% ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และ 3 ใน 4 ยังไม่ได้รับวัคซีน อีก 24% ได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว

ทีมวิจัยนำตัวอย่างไวรัสทั้งหมดที่เก็บจากผู้ป่วยไปถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม (WGS) ซึ่งเป็นวิธีหาสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่แม่นยำที่สุด พบว่าเกือบ 80% ของผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์อัลฟา ส่วนที่เหลือติดสายพันธุ์เดลตา และราว 1 ใน 50 ของผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภายใน 14 วันหลังตรวจพบว่าติดเชื้อครั้งแรก

และหลังจากนำปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่ออาการป่วยหนัก อาทิ อายุ เชื้อชาติ และสถานะการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 นักวิจัยพบว่า ความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าหากติดสายพันธุ์เดลตา

แอนน์ พรีซานิส นักสถิติอาวุโสจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และหัวหน้าทีมวิจัยร่วมเผยว่า ผลการวิจัยครั้งนี้บอกเราเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนยังไม่ครบโดส ดังนั้นการได้รับวัคซีนให้ครบโดสเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแบบมีอาการ

ผลการวิจัยชิ้นนี้สอดคล้องกับผลการวิจัยของของสกอตแลนด์ที่เผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาที่พบว่า สายพันธุ์เดลตาเพิ่มความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อัลฟา

Photo by Oli SCARFF / AFP