posttoday

จีนจ่อฉีด mRNA เป็นเข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนจีน

16 กรกฎาคม 2564

จีนเตรียมใช้วัคซีน mRNA ตัวเดียวกับ Pfizer/BioNTech เป็นเข็มกระตุ้นให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายของจีนครบโดส

Caixin สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่าจีนกำลังวางแผนที่จะใช้วัคซีนชนิด mRNA ซึ่งบริษัท Fosun Pharma ของจีนวางแผนร่วมผลิตวัคซีนกับบริษัท BioNTech ของเยอรมนีเพื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ชาวจีนที่เคยรับวัคซีนครบโดสแล้วโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

แหล่งข่าวเผยว่าวัคซีนดังกล่าวจะมีชื่อทางการค้าว่า Comirnaty หรือชื่อทางการคือ BNT162b2 ซึ่งเหมือนกันกับวัคซีนที่ BioNTech ร่วมพัฒนากับ Pfizer ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก หรือที่มักเรียกกันว่าวัคซีน Pfizer/BioNTech

โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรออนุมัติจากองค์การเภสัชกรรมจีนซึ่ง Fosun คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม และมีกำลังการผลิตราว 100 ถึง 200 โดสต่อเดือน

หากได้รับการอนุมัติวัคซีน BioNTech จะเป็นวัคซีนต่างประเทศตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติใช้ในประเทศจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้วัคซีนที่จีนอนุมัติล้วนเป็นวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทในประเทศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น CanSino, Sinopharm, Sinovac และ Zhifei

ทั้งนี้ วัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท BioNTech มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 อยู่ที่ 95% ตามผลการทดลองวัคซีนระยะสุดท้าย และหลายการศึกษาชี้ว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้รวมถึงสายพันธุ์เดลตาซึ่งทั่วโลกกำลังกังวล

ขณะที่ในการทดลองทางคลินิกและการใช้จริงพบว่าวัคซีนเชื้อตายที่ผลิตโดยประเทศจีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมอยู่ที่ 50% ถึงเกือบ 80% และไม่มีข้อมูลการป้องกันสายพันธุ์เดลตา

อย่างไรก็ตามบางส่วนมองว่าการที่จีนร่วมผลิตวัคซีนชนิด mRNA กับ BioNTech ในครั้งนี้เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อตายที่ผลิตเอง หรือเป็นการแข่งขันกับบริษัท Pfizer และ Moderna

ขณะนี้ประเทศจีนฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรไปแล้วกว่า 1,400 ล้านโดสซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในโลก และตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 70% ภายในสิ้นปีนี้ โดยส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเชื้อตายของ Sinovac และ Sinopharm

ด้านสถาบันสถาบันภูมิคุ้มกันวิทยาและภูมิคุ้มกันบำบัด (Millennium Institute for Immunology and Immunotherapy) ในชิลีซึ่งทำการทดลองวัคซีน Sinovac ร่วมกับอาสาสมัครจำนวน 2,000 คน พบว่าแอนติบอดีจากวัคซีนดังกล่าวลดลงเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน

นอกจากนี้เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนกับโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาพบว่าแอนติบอดีลดลง 4 เท่าเมื่อเทียบกับโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม ทีมวิจัยจึงได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนเป็นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์กลายพันธุ์อื่นๆ

Photo by STR / AFP