posttoday

ปี 2020 ติดโผ 1 ใน 3 ปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

03 ธันวาคม 2563

องค์การสหประชาชาติเตือนโลกกำลังอยู่ในหายนะ โดยปีนี้เป็นหนึ่งในปีที่ร้อนที่สุดในรอบร้อยกว่าปี

เอเอฟพี รายงาน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่าโลกกำลังอยู่ในช่วง "หายนะของสภาพภูมิอากาศ" โดยปีนี้เป็น 1 ใน 3 ปีที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกตั้งแต่ปี 1850 หรือเมื่อ 170 ปีที่แล้ว

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเผยรายงานปี 2020 ระบุว่าโลกกำลังเข้าใกล้ภัยพิบัติจากสภาพอากาศ โดยภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างไฟไหม้ น้ำท่วม พายุไซโคลน และเฮอริเคนกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อยๆ

"มนุษย์กำลังทำสงครามกับธรรมชาติซึ่งนี่ถือเป็นการฆ่าตัวตายเพราะธรรมชาติมักจะโต้กลับเสมอ และมันก็กำลังทำเช่นนั้นด้วยพลังและความโกรธที่เพิ่มมากขึ้น" กูเตอร์เรสกล่าว

เพตเตรี ทาลัส เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกกล่าวว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในปี 2020 เพิ่มขึ้น 1.2 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และมีโอกาสอย่างน้อย 1 ใน 5 ที่จะเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2024

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่าในปีนี้เป็นปีที่ร้อนที่สุดอันดับ 2 เท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยในช่วงปี 2015 ถึง 2020 อุณภูมิโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 6 ครั้ง และอุณภูมิเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ร้อนสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

ก๊าซเรือนกระจกทำสถิติสูงสุดในปีที่แล้วและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้แม้จะมีมาตรการระงับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม เช่นเดียวกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในชั้นบรรยากาศมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ดังนั้นมาตรการจากโควิด-19 นั้นแทบจะไม่มีผล โดยจะต้องมีการผลิตน้ำมันก๊าซและถ่านหินลดลง 6% ต่อปีเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อน

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2020 เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไฟป่าในออสเตรเลีย ไซบีเรีย ชายฝั่งทางตะวันตกของสหรัฐ และอเมริกาใต้, น้ำท่วมในแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เกิดพายุอย่างน้อย 30 ครั้ง, ความร้อนทางตอนเหนือของไซบีเรียสูงถึง 38 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดที่เคยพบทางตอนเหนือของอาร์กติกเซอร์เคิล, 80% ของพื้นที่มหาสุมรประสบกับคลื่นความร้อนทางทะเลอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ รวมถึงระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเนื่องจากแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลาย

อย่างไรก็ตามรายงานอุณหภูมิดังกล่าวเป็นเพียงฉบับชั่วคราวโดยอ้างอิงจากอุณหภูมิตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ซึ่งรายงานฉบับสุดท้ายของปีนี้จะเผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2021

Photo by JOSH EDELSON / AFP