ปริศนาประวัติศาสตร์ มนุษย์โบราณรู้ศาสตร์การบินมาแล้วนับพันปี?

ก่อนหน้านี้อียิปต์มีการขุดพบขุมทรัมพย์โบราณ และโลงศพมัมมี่อยู่เป็นระยะโดยเฉพาะที่ซัคคารา สุสานโบราณขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของปิรามิด วัดโบราณ และสถานที่ฝังศพสัตว์จำนวนมาก

แต่มีอีกหนึ่งการค้นพบที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนนั่นคือการค้นพบ "นกซัคคารา" (Saqqara Bird) ในปี 1898 ซึ่งเป็นการแกะสลักไม้เป็นรูปร่างนกเหยี่ยวที่มีปีกและหางอย่างสมบูรณ์ โดยสันนิษฐานว่าถูกทำขึ้นตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล

นกซัคคาราถูกระบุว่าเป็นเหยี่ยวที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เนื่องจากเหยี่ยวเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้า หรืออาจใช้เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนชั้นสูง หรือใช้วางไว้บนหัวเรือ นอกจากนี้ยังมีการสันนิษฐานว่าอาจใช้เป็นใบพัดอากาศหรือบูมเมอแรงอีกด้วย

แม้ว่าวัตถุประสงค์ของนกซัคคารายังคงไม่ชัดเจนนัก แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับนกไม้เหล่านี้ก็คือรูปทรงและองศาของปีกนกนั้นตรงตามหลักการของปีกเครื่องบินที่ใช้กันในปัจจุบัน ทำให้บรรดานักโบราณคดีตั้งข้อสังสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ชาวอียิปต์โบราณจะรู้ศาสตร์การบินมาก่อนหน้านี้เป็นพันๆ ปีแล้ว

แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญออกมาแย้งว่ารูปทรงของนกซัคคารานั้นไม่มีความเสถียรในการบิน และยังไม่เคยค้นพบหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่ามีเครื่องบินในยุคอียิปต์โบราณก็ตาม

หากข้ามไปฝั่งอเมริกาใต้ในประเทศโคลอมเบียก็มีการค้นพบ "เครื่องบินกิมบายา" (Quimbaya artifacts) สิ่งประดิษฐ์รูปเครื่องบินขนาดเล็กประมาณ 2 ถึง 3 นิ้ว ทำด้วยโลหะผสมสีทอง ซึ่งมีอายุราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล

แม้นักโบราณคดีหลายคนจะอธิบายว่านี่เป็นเพียงการสร้างเพื่อเลียนแบบรูปร่างนก, กิ้งก่า, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ หรือแมลงที่พบเห็นได้ทั่วไปในภูมิภาคขณะนั้นเท่านั้น แต่ก็มีทฤษฎีที่พิสูจน์ว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้คือต้นแบบของเครื่องบินโบราณที่สามารถบินได้จริง แม้จะเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตามแต่บังเอิญเกินไปหรือไม่ที่สิ่งประดิษฐ์อายุนับพันปีเหล่านี้จะเหมือนกับเครื่องบินที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ที่อินเดียยังมีปรากฏหลักฐานวัตถุรูปร่างคล้ายยานบินจากจิตรกรรมและประติมากรรมในโบราณสถานหลายแห่ง ซึ่งชาวอินเดียโบราณเรียกยานพาหนะที่บินได้ว่า "วิมาน หรือ วิมานะ" (Vimana)

โดยมีการบรรยายรูปร่างลักษณะของยานนี้ไว้ว่า "เป็นยานสองชั้น รูปร่างค่อนข้างกลม มีท่อไอเสียอยู่ด้านล่าง และมีห้องผู้โดยสารรูปร่างคล้ายโดม เคลื่อนที่ด้วยความเร็วยิ่งกว่าสายลม"

เมื่อปี 1875 มีการค้นพบหลักฐานที่วัดแห่งหนึ่งในอินเดีย ซึ่งสันนิษฐานว่าหลักฐานดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ 400 ปีก่อนศริสตกาล ในหลักฐานนั้นระบุว่าชาวอินเดียโบราณได้ผลิตยานเหล่านี้ด้วยตนเองพร้อมบันทึกวิธีการควบคุมยานดังกล่าว รวมถึงข้อระมัดระวังในการเดินทาง และการป้องกันตัวจากพายุและสายฟ้าไว้อีกด้วย

นักโบราณคดีเห็นว่ายานอินเดียโบราณนี้คล้ายคลึงกับยูเอฟโอทั้งรูปร่างและความสามารถในการเคลื่อนที่