เยอรมนีไฟเขียวฉีด 3 แสนล้านบาท อุ้ม'Lufthansa'
ที่ผ่านมา Lufthansa มีผลประกอบการทำกำไรมาตลอด แต่ด้วยวิกฤตโควิดจึงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ที่รัฐบาลเยอรมนีต้องเข้าไปถือหุ้นใหญ่
นาย Peter Altmaier รัฐมนตรีกระทรวงกิจการเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี (BMWi) เผยในการแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเบอร์ลินว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งนำโดยนางอังเกลา แมร์เคิล เห็นชอบในมาตรการอัดฉีดเงินเพื่อต่อลมหายใจให้กับสายการบินลุฟต์ฮันซาซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของเยอรมนี เป็นมูลค่า 9,800 ล้านยูโรป หรือกว่า 300,000 แสนล้านบาท ด้วยการที่รัฐบาลเยอรมนีจะกลับเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในสายการบินอีกครั้ง
ที่ผ่านมาลุฟต์ฮันซาแม้จะเป็นสายการบินแห่งชาติของเยอรมนี แต่อยู่ภายใต้การบริหารผ่านเอกชนเป็นผู้ถือหุ้นหลักโดยรัฐบาลเยอรมนีแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับทางสายการบิน ซึ่งเช่นเดียวกับหลายสายการบินแห่งอื่นๆทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้สายการบินมีผลการดำเนินงานที่ดีและทำกำไรมาตลอด แต่ต้องประสบปัญหาเพราะโรคระบาด
การเข้าไปช่วยเหลือด้วยการอัดฉีดเงินจะต้องแลกมาด้วยการยอมให้รัฐบาลเยอรมนีเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในสายการบินร้อยละ 20% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994 ที่ลุฟต์ฮันซ่ากลับสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้ง โดยรัฐบาลเยอรมนีมีแผนจะขายหุ้นดังกล่าวทิ้งในปี 2023 แต่ระหว่างสามปีที่ถือหุ้นนี้รัฐบาลอาจเพิ่มหุ้นได้อีกราว 5% เพื่อความเหมาะสมในการช่วยเหลือทางการเงิน และรักษาสภาพคล่องของสายการบิน
สำหรับลุฟต์ฮันซ่าเป็นหนึ่งในสายการบินขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลก ด้วยจำนวนพนักงานมากถึง 135,534 คน และมีฝูงบินที่เป็นเครื่องพาณิชย์มากถึง237ลำ ทั้งยังมีบริษัทลูกที่เป็นสายการบินอื่นๆอีกมากมาย อย่างไรก็ดีมีรายงานเช่นกันว่า แผนการอุ้มสายการบินในครั้งนี้อาจต้องแลกมากด้วยการที่สายการบินต้องปลดพนักงานในบ้างส่วนลง เพื่อให้สายการบินมีสภาพคล่องมากขึ้น ขณะเดียวกันทางสายการบินก็มีแผนกลับมาให้บริการในบางเที่ยวบินเดือนมิถุนายนนี้ หลังรัฐบาลหลายประเทศยุโรปเริ่มคลายล็อกดาวน์