เอาเชื้อมาจากไหน? ทรัมป์หลุดปากพัฒนาวัคซีนก่อนไวรัสระบาดในสหรัฐ

ชาวจีนในโซเชียลเน็ตเวิร์กตั้งคำถามถึงโอกาสที่โคโรไนไวรัสอาจระบาดในสหรัฐก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการหรือระบาดมาก่อนหน้านั้นแล้วแต่รัฐบาลสหรัฐไม่สนใจการระบาดเท่าที่ควร หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เผยว่าสหรัฐเริ่มพัฒนาวัคซีนในวันที่ 11 มกราคม 2563

ระหว่างมีแถลงการณ์เรื่องการพัฒนาวัคซีนที่ทำเนียบขาวทรัมป์กล่าวว่า "นักวิทยาศาสตร์ที่ NIH เริ่มพัฒนาตัวอย่างวัคซีนครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม ... ลองคิดดู ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการโพสต์พันธุกรรมของไวรัส แล้วในวันที่ 11 มกราคมคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราเริ่มพยายามพัฒนาวัคซีน โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังต้องเผชิญหน้ากับอะไร"

ทั้งนี้ ประเทศจีนแบ่งปันข้อมูลลำดับจีโนมของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่กับองค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 12 มกราคม

ทั้งนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 คนแรก (Patient 1) ของสหรัฐเป็นหญิงวัย 60 ปี เดินทางไปอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 และกลับมายังสหรัฐเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563

คำพูดของทรัมป์ดังกล่าวทำให้คนจีนรู้สึกประหลาดใจมากและไม่พลาดที่สื่อของทางการจีนอย่าง Global Times จะตีประเด็นนี้ต่อ โดยสัมภาษณ์ศาสตราจารย์ หลีไห่ตง (Li Haidong) แห่งมหาวิทยาลัยกิจการระหว่างประเทศของจีนที่กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของเขามีเจตนาที่จะใช้จีนเป็นแพะรับบาปจาการระบาดของไวรัส และเพื่อที่จะเบี่ยงเบนความล้มเหลวของรัฐบาลสหรัฐในการควบคุมการระบาด

ส่วนชาวจีนทั่วไปต่างแสดงความไม่พอใจ เพราะคำพูดนี้แสดงว่ารัฐบาลทรัมป์รู้ล่วงหน้า แต่ไม่มีมาตรการรับมือการระบาดอย่างทันท่วงที แล้วยังพยายามที่จะโทษว่าเป็นความผิดของจีน

แม้แต่สื่อของสหรัฐอย่าง Business Insider เผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมได้ตั้งคำถามว่าสหรัฐอาจพบการแพร่ระบาดตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่มัวจับตาไปที่จีนจนลืมตรวจประเทศตัวเอง

Photo by MANDEL NGAN / AFP