posttoday

ผอ. WHO ติงสหรัฐใช้โรคระบาดมาเป็นเกมการเมือง

09 เมษายน 2563

วิวาทะนี้เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ขู่จะตัดเงินช่วยองค์การอนามัยโลกและโจมตีว่าล้มเหลวและเข้าข้างจีน

องค์การอนามัยโลก (WHO) ร้องขอความสามัคคีจากประชาคมโลกในการต่อสู้กับโควิด-19 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐโจมตีองค์กรอย่างต่อเนื่องว่าล้มเหลวในการจัดการกับการระบาดใหญ่และยังเอนเอียงเข้าหาจีน

เท็ดรอส อาดานอม (Tedros Adhanom) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้สหรัฐร่วมมือกับจีนในการต่อสู้กับโรคร้ายแทนที่จะมากล่าวโทษกัน

"สหรัฐและจีนควรมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับศัตรูที่อันตรายนี้" เท็ดรอสเแถลงข่าวสั้นๆ ในเจนีวา "เป้าหมายของทุกฝ่ายการเมืองควรจะอยู่ที่ควรจะอยู่ที่การช่วยประชาชนของตน กรุณาอย่าทำให้ไวรัสเป็นเรื่องการเมือง"

เท็ดรอส ยังกลาวเตือนว่า "ถ้าคุณไม่ต้องการถุงใส่ศพเพิ่มอีก คุณควรเลิกใช้ไวรัสมาเป็นประเด็นการเมือง มันเหมือนเป็นการเล่นกับไฟ"

เขายังเอ่ยถึงจำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนการติดเชื้อที่ตอนนี้สูงจนน่าตกใจ เท็ดรอสถึงกับวิงวอนว่า "เห็นแก่พระเจ้าเถอะ ... นี่ยัง (ตาย) ไม่มากพออีกหรือ?"

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่หยุดให้เงินหนุนอนามัยโลก วิจารณ์ล้มเหลวรับมือการระบาด โดยทรัมป์กล่าวว่า "องค์การอนามัยโลกล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ในการรับมือระบาด หน่วยงานนี้เป็นผู้ทำให้เชื้อแพร่กระจาย ... สำหรับเหตุผลบางประการองค์กรนี้ได้รับเงินอุดหนุนส่วนส่วนใหญ่จากสหรัฐ แต่กลับทำงานให้จีน ยังดีที่ผมปฏิเสธคำแนะนำของพวกเขาทื่ให้เราไม่ให้ปิดพรมแดนห้ามชาวจีนเข้าประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นคำแนะนำที่บกพร่องอย่างมาก"

ตามปกติแล้ว เท็ดรอสจะแถลงข่าว 3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยเน้นความโปร่งใสในการรับมือกับการระบาด แต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นเป็นครั้งแรกที่เขาใช้เวลาแถลงมาชี้แจงการโจมตีส่วนบุคคลที่มุ่งเป้าไปที่เขา รวมถึงการใส่ร้ายป้ายสีทางเชื้อชาติและการขู่เอาชีวิตเขา โดยเขาอ้างว่ามีคำพูดเหยียดผิวสีต่อตัวเขามาจากไต้หวัน ซึ่งไม่ใช่สมาชิกขององค์การอนามัยโลกเนื่องจากมีประเด็นเรื่องสถานะความเป็นประเทศที่ทับซ้อนกับจีน

"ผมไม่สนใจมันหรอก” เท็ดรอสซึ่งเป็นชาวแอฟริกันจากเอธิโอเปีย กล่าว "ผมเป็นคนผิวดำหรือพวกนิโกร ผมภาคภูมิใจมาก ผมไม่สนหรอกที่จะถูกเรียกว่านิโกร ก็เพราะว่าผมเป็นไง"

เขายังกล่าวถึงคำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์ 2 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จะใช้แอฟริกาเป็นที่ทดสอบวัคซีนซึ่งเรื่องนี้เขากล่าวด้วยความขึงขังว่า "แต่ถ้าชุมชนคนผิวดำทั้งหมดถูกดูหมิ่น เมื่อแอฟริกาถูกดูหมิ่น ผมจะไม่ยอม"

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันประณามผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกว่า "ไม่มีมูลความจริง" จากกรณีที่เขาอ้างว่ามีการเหยียดเชื้อชาติต่อตัวเขามาจากไต้หวัน และชี้ว่าคำกล่าวอ้างนี้เป็นเพียง "จินตนาการ" ของเท็ดรอส

“เราเป็นประเทศประชาธิปไตยขั้นสูงที่เจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จอย่างสูง และไม่ได้ยุยงให้ประชาชนของเราโจมตีผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเป็นการส่วนตัวและไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงเหยียดผิว” แถลงการของกระทรวงต่างประเทศของไต้หวัน