posttoday

ถอดกลยุทธ์เกาหลีใต้ รัฐบาลทำอย่างไรถึงควบคุมโคโรนาไวรัสได้เร็ว

17 มีนาคม 2563

“การตรวจเชื้อโคโรนาไวรัสสำคัญที่สุดเพราะจะทำให้เราพบผู้ติดเชื้อได้เร็ว” คังคยองวา รมว.กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ เผย

คังคยองวา รัฐมนตรีว่าการกระทวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสที่เกาหลีใต้ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ผ่านรายการ The Andrew Marr Show ของสำนักข่าว BBC ไว้ดังนี้

แอนดรูว์ มาร์ : ประเทศคุณนำยุทธศาสตร์เฉพาะมารับมือกับการแพร่ระบาดครั้งนี้ ช่วยอธิบายยุทธศาสตร์นี้ให้เราฟังหน่อยครับ 

คังคยองวา : หลักของเราก็คือ ความตรงไปตรงมา ความโปร่งใส และการแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบอย่างสม่ำเสมอ ฉันคิดว่าวิธีนี้ได้ผล เรามีระบบบริการสุขภาพที่ดีและใช้ประโยชน์จากจุดนี้อย่างเต็มที่ เรารับมือกับโรคนี้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ด้วยความโปร่งใส ทำให้เราได้รับความเชื่อมั่นและแรงสนับสนุนจากชาวเกาหลีใต้ ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของเราเริ่มนิ่งติดต่อกันอย่างน้อย 3 วัน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยกว่าจำนวนผู้ติดรักษาหายแล้ว  

แอนดรูว์ มาร์ : คุณยังมีระบบการตรวจผู้ติดเชื้อน่าสนใจ คุณตรวจผู้ต้องสงสัยติดเชื้อวันละ 20,000 ราย ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีประชากรเท่าๆ กับเกาหลีใต้ คุณทำได้อย่างไรและทำไมคุณจึงให้ความสำคัญกับการตรวจ

คังคยองวา : การตรวจถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะทำให้เราพบผู้ติดเชื้อได้เร็ว ลดการแพร่กระจาย และทำให้รักษาผู้ที่ติดเชื้อได้เร็ว ฉันคิดว่าวิธีนี้คือกุญแจสำคัญที่ทำให้อัตราการเสียชีวิตน้อย ระบบบริการสุขภาพของเราเอื้อให้มีการตรวจสอบผู้ติดเชื้อได้รวดเร็ว หลังจากที่ทางการจีนเปิดเผยโครงสร้างดีเอ็นเอของเชื้อเมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค. จากนั้นกระทรวงสาธารณสุขได้หารือกับสถาบันวิจัยและแบ่งปันข้อมูลให้กับบริษัทผลิตยา จากนั้นบริษัทผลิตยาก็ผลิตอุปกรณ์ตรวจเชื้อ ขณะนี้เราตรวจผู้ป่วยแล้ว 268,000 ราย (ณ วันที่ 15 มี.ค.)

?แอนดรูว์ มาร์ : ยอดเยี่ยมมาก อีกสิ่งหนึ่งที่คุณทำคือการติดตามผู้ป่วยหลังจากตรวจพบ เกาหลีใต้ไม่ได้ปิดประเทศหรือแยกตัวออกจากสังคมอย่างที่หลายประเทศในยุโรปทำ แต่ติดตามผู้ป่วยผ่านแอพพลิเคชั่นแทน คุณช่วยอธิบายได้ไหมว่าทำไมจึงทำเช่นนั้นและไม่ปิดทั้งประเทศ

คังคยองวา : ฉันคิดว่านี่คือการยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย นั่นคือความตรงไปตรงมาและรัฐบาลต้องทำงานรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ ชาวเกาหลีใต้วางมาตรฐานการทำงานของรัฐบาลไว้สูง และนั่นคือปัจจัยที่ผลักดันให้รัฐบาลรับมือกับโรค Covid-19 อย่างรวดเร็ว เราเฝ้าจับตาทั้งการเดินทางเข้าและออกนอกประเทศ ดังนั้นจึงไม่ใช่การลดเฉพาะความเสี่ยงจากคนที่จะเดินทางเข้าประเทศ และควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีมาตรการตรวจสอบผู้ที่มีอาการต้องสังสัยที่จะเดินทางออกนอกประเทศด้วย

แอนดรูว์ มาร์ : ตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงแล้ว คุณคิดว่าเกาหลีใต้ก้าวพ้นช่วงวิกฤตแล้วหรือยัง

คังคยองวา : ช่วงที่มีการติดเชื้อมากที่สุดคือช่วงปลายเดือน ก.พ. ซึ่งขณะนั้นมีผู้ติดเชื้อกว่า 900 ราย แต่ตอนนี้ลดลงเหลือ 76 ราย (ณ วันที่ 15 มี.ค.) ฉันคิดว่าตอนนี้ผู้ป่วยรายใหม่เริ่มลดลงแต่เราก็ยังไม่พอใจ เพราะสถานการณ์นี้ไม่ได้กระทบเฉพาะเกาหลีใต้เท่านั้น เราไม่ได้ยึดหลักความตรงไปตรงมาและเปิดเผยเฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่ยังใช้ในระดับนานาชาติด้วย เนื่องจากเกาหลีใต้และประเทศอื่นต้องพึ่งพาอาศัยกัน

ชาวเกาหลีใต้เดินทางท่องเที่ยวและทำธุรกิจในต่างประเทศ เศรษฐกิจของเราขึ้นอยู่กับการถ้อยทีถ้อยอาศัยกับประเทศอื่นๆ ดังนั้นเราจึงไม่ต้องการปิดประตูใส่ประเทศอื่น และเนื่องจากโรคนี้ระบาดในหลายประเทศ เราจึงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าจะไม่ปิดประเทศ วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้กับประเทศที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารไม่พร้อม แต่ฉันคิดว่าสุดท้ายแล้ว เราต้องยอมรับว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เชื้อโรคใหม่ๆ เป็นภัยคุกคามทางสาธารณสุขระดับโลก

เราหวังว่าประสบการณ์ของเราและวิธีการรับมือจะช่วยเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่น และก่อให้เกิดความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่อเตรียมการรับมือหากเกิดโรคระบาดครั้งต่อไป

แอนดรูว์ มาร์ : ในมุมมองของคุณคือ แม้เราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้แล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่ตอนจบ มันคือการเริ่มต้นของวิถีชีวิตใหม่

คังคยองวา : ใช่ค่ะ ในฐานะรัฐบาลฉันอยากบอกว่าเราต้องเตรียมรับมือกับความตื่นตระหนกด้วย ฉันคิดว่ารัฐบาลต้องสุขุมรอบคอบ และยึดถือตามหลักฐานและวิทยาศาสตร์ เนื่องจากฉันมองว่าการที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นโรคที่ระบาดไปทั่วโลก (pandemic) เสี่ยงต่อการแพร่ความหวาดวิตกและความหวาดกลัว (phobia) ตัวฉันเองเคยถูกทำร้ายร่างการและทำร้ายด้วยคำพูดหลายต่อหลายครั้งเมื่อคนอื่นทราบว่าฉันเป็นชาวเอเชีย หรือชาวเกาหลีใต้ และรัฐบาลต้องรับผิดชอบในการหยุดเหตุการณ์เหล่านี้ เพราะมันเป็นอุปสรรคต่อการร่วมมือในการก้าวผ่านวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ไปด้วยกัน