จีดีพีจีนโตน้อยสุดในรอบ 27 ปี
สงครามการค้า-กำลังซื้อในประเทศ ทำจีดีพีจีนไตรมาส 3 หดตัวเหลือ 6% น้อยสุดนับตั้งแต่ปี 1992
สงครามการค้า-กำลังซื้อในประเทศ ทำจีดีพีจีนไตรมาส 3 หดตัวเหลือ 6% น้อยสุดนับตั้งแต่ปี 1992
เอเอฟพีรายงานว่า ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ (กรกฎาคม-กันยายน) พบว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจีน หรือ การขยายตัวของจีดีพีอยู่ที่ 6% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 6.2% ตามการเปิดเผยข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติจีน National Bureau of Statistics (NBS)
รายงานระบุว่า ผลกระทบที่ทำให้จีดีพีของจีนเติบลดลงเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง ประกอบกับผลกระทบด้านสงครามการค้ากับสหรัฐ
การลดลงของจีดีพีในไตรมาสสามครั้งนี้ ถือว่าเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 27 ปี นับตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งหากเทียบกับตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา เศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวอยู่ที่ระหว่าง 6.0-6.5 % ตลอดทั้งปี ขณะที่ในปี 2018 เศรษฐกิจของจีนเคยเติบโตสูงถึงร้อยละ 6.6 %
Mao Shengyong โฆษก NBS กล่าวว่า "เราต้องตระหนักว่าเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ซับซ้อนและรุนแรงทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนจากภายนอกและความไม่แน่นอนทำให้เศรษฐกิจจีนอยู่ภายใต้แรงกดดัน"
"อย่างไรก็ดี ภาคบริการและการผลิตภาคเทคโนโลยีชั้นสูงซึ่งเป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวสำคัญ รวมถึงการจ้างงานในภาคดังกล่าว ยังคงมีเสถียรภาพ"
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวจากสำนักสถิติจีนนั้นไม่ได้รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของไต้หวัน มาเก๊า และฮ่องกง ซึ่งกำลังเผชิญปัจจัยความรุนแรงทางการเมืองในขณะนี้