posttoday

เอเชียแห่จดสิทธิบัตร! "จีน"จ่อโค่นแชมป์สหรัฐอีก2ปี

20 มีนาคม 2562

บริษัทเอเชียมาแรง ยื่นขอจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาพุ่ง ด้านไทยยื่นลดลงเหลือ 105 ฉบับ "หัวเว่ย"มาแรงขอIPมากสุดในโลก

บริษัทเอเชียมาแรง ยื่นขอจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาพุ่ง ด้านไทยยื่นลดลงเหลือ 105 ฉบับ "หัวเว่ย"มาแรงขอIPมากสุดในโลก

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (ไวโป) เปิดเผยรายงานสถิติการยื่นจดสิทธิบัตรทั่วโลก พบว่า ปี 2018 นั้นนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทจากเอเชียยื่นจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพี) เกินครึ่งหนึ่งของทั่วโลก อยู่ที่ 50.5% จากการยื่นจดสิทธิบัตรทั้งหมด นำโดยจีน อินเดีย และเกาหลีใต้

ขณะเดียวกัน ไวโป ระบุว่า ในภาพรวมนั้นการยื่นจดสิทธิบัตรทั่วโลกอยู่ที่ 2.53 แสนฉบับ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 3.9% จากปี 2017

ฟรานซิส เกอร์รี ผู้อำนวยการทั่วโลกของไวโป กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่ากิจกรรมด้านนวัตกรรมกำลังเบนเข็มจากตะวันตกไปสู่ตะวันออก และการที่เอเชียกลายเป็นภูมิภาคที่มีการยื่นจดสิทธิบัตรมากที่สุด สะท้อนให้เห็นว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในเอเชียนั้นขึ้นมาอยู่ในระดับที่สามารถเข้ามาช่วงชิงพื้นที่ในระดับโลกได้แล้ว

แม้ว่าในปีที่ผ่านมาสหรัฐจะยังคงเป็นประเทศที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรมากที่สุดในโลกที่ 5.61 หมื่นฉบับ ซึ่งลดลง 0.9% จากปีก่อนหน้า แต่ไวโประบุว่า จีนซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ด้วยจำนวนการยื่นขอจด 5.33 หมื่นฉบับ เพิ่มขึ้น 9.1% จากปี 2017 จะสามารถเบียดสหรัฐและก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ในภายใน 2 ปี

ก่อนหน้านี้ บริษัทสอบบัญชี ดีลอยต์ระบุว่า การยื่นจดสิทธิบัตรของจีนที่ปรับตัวขึ้นสะท้อนว่าจีนกำลังทุ่มลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูง โดยนับตั้งแต่ปี 2015 จีนลงทุนด้านเทคโนโลยีโครงข่ายไร้สายมากกว่าสหรัฐประมาณ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.59 แสนล้านบาท)

ด้านไทยนั้น ไวโป ระบุว่า การยื่นจดสิทธิบัตรปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 105 ฉบับ ในปี 2018 จาก 156 ฉบับ ในปี 2017

รายงานระบุด้วยว่า ในบรรดา 8 บริษัทแรกที่ขอจดสิทธิบัตรมากที่สุดในโลก มีบริษัทจากเอเชียมากถึง 6 บริษัท นำโดยบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ของจีน ที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรไอพีมากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 5,405 ฉบับ เพิ่มขึ้น 34.3% จากปี 2017 แม้ว่าหัวเว่ยจะถูกกดดันจากรัฐบาลสหรัฐและชาติพันธมิตร ที่อ้างว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงก็ตาม

นอกจากนี้ สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ยื่นขอจดสิทธิบัตร นับเป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจากจีนเข้ามาติดโผ 10 อันดับแรก และมีจำนวนมากถึง 4 แห่ง ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยเสิ่นเจิ้นในอันดับ 3 และมหาวิทยาลัยเซาท์ไชน่าในอันดับที่ 4 ซึ่งเบียดมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐ ตกไปอยู่ในอันดับที่ 5

ภาพ เอเอฟพี