เมื่อซูเปอร์มาร์เก็ตดังในสหรัฐ เริ่มใช้รถไร้คนขับส่งของให้ลูกค้า
"โครเกอร์" เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตดังในสหรัฐเริ่มใช้ยานพาหนะไร้คนขับเพื่อส่งของชำถึงบ้านลูกค้าแล้ว
"โครเกอร์" เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตดังในสหรัฐเริ่มใช้ยานพาหนะไร้คนขับเพื่อส่งของชำถึงบ้านลูกค้าแล้ว
โครเกอร์ (Kroger) บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตดังในสหรัฐ เริ่มใช้ยานพาหนะไร้คนขับเพื่อส่งของชำถึงบ้านลูกค้าแล้ว โดยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เดลิเวอรี่ไร้คนขับ นำนม ไข่ และสตรอเบอร์รี่ ไปส่งที่บ้านของ แชนนอน บาร์เก็ต ลูกค้าที่อยู่ชานเมืองฟีนิกซ์ ในสก็อตส์เดล รัฐแอริโซนา
“มันเจ๋งมาก แต่เล็กกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ ฉันบอกกับสามีว่า หุ่นยนต์เพิ่งมาส่งของให้เรา” แชนนอน กล่าว
หลังจากนวัตกรรมยานพาหนะไร้คนขับ เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบาย ถูกผู้ประกอบการหลายเจ้าทดลองกันมาอย่างต่อเนื่อง โครเกอร์ ก็ได้ร่วมมือกับ นูโร (Nuro) ผู้นำสตาร์ทอัพด้านยานพาหนะไร้คนขับจากซิลิคอนวัลเลย์ ผลิตและพัฒนา “R1” เพื่อจัดส่งสินค้าที่ซื้อจากโครเกอร์ โดยไม่ต้องมีพนักงาน ด้วยราคาค่าขนส่ง 5.95 เหรียญ (ราว 180 บาทต่อครั้ง) ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการดังกล่าวจะสามารถสั่งซื้อสินค้าให้ส่งภายในวันนั้นหรือวัดถัดมา ก็ได้โดยไม่มีขั้นต่ำ
โดยขณะนี้ยังรองรับเฉพาะการจัดส่งภายในระยะทางประมาณ 1 ไมล์ (1.6 กม.) จากซูเปอร์มาร์เก็ต ฟรายส์ ฟู้ด ซึ่งเป็นร้านขายของชำ หนึ่งในเครือของโครเกอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองสก็อตส์เดล รัฐแอริโซนา โดยผู้ใช้บริการจะต้องอยู่ในเขตไปรษณีย์รหัส 85257 เท่านั้น
“เมื่อถูกเรียกใช้บริการ R1 จะเดินทางภายในรัศมี 1 ไมล์จากซูเปอร์มาร์เก็ต บนถนนย่านที่อยู่อาศัย โดยจะหลีกเลี่ยงถนนสายหลักหรือทางหลวง โดยลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ จะได้รับข้อความเมื่อเดลิเวอรี่ไร้คนขับของเรากำลังจะเดินทางไป และจะมีข้อความแจ้งเตือนอีกครั้งเมื่อส่งมอบของ ซึ่งลูกค้าจะได้รับรหัสเพื่อเปิดประตูรถ” แพม เกนโนแนทตี้ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของโครเกอร์ กล่าว
เดฟ เฟอร์กูสัน ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งนูโร กล่าวว่า ในช่วงแรกซึ่งถือว่ายังอยู่ในช่วงทดลอง ยานพาหนะไร้คนขับที่มีโปรแกรมควบคุมอย่างระมัดระวัง จะมีรถที่ขับโดยบุคคลประกบตามติด ซึ่งสามารถที่จะควบคุมให้ R1 หยุด เมื่ออาจเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นเราจะเริ่มยุติการติดตาม และปล่อยให้ R1 กลายเป็นเดลิเวอรี่ไร้คนขับอย่างเต็มตัว
R1 เป็นยานพาหนะไร้คนขับ ที่นูโรประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วิชั่น ผลิตและพัฒนาขึ้น ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า มี 4 ล้อ ลักษณะคล้ายเครื่องปิ้งขนมปัง ที่มาพร้อมกับที่เก็บของ 2 ส่วน มีกล้องและเซ็นเซอร์ติดอยู่บนหลังคา และภายในรับน้ำหนักได้ถึง 243 ปอนด์ (ประมาณ 110 กก.)
แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้ค้าและลูกค้า แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนยังแสดงความกังวล หลังเกิดเหตุรถไร้คนขับของ Uber ชนหญิงสาวเสียชีวิต ขณะที่เธอกำลังเดินข้ามถนน ในรัฐแอริโซนา เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ Uber ต้องประกาศยุติการพัฒนารถไร้คนขับ
อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสัน เน้นย้ำว่า เพราะ R1 ถูกออกแบบมาให้เป็นรถไร้คนขับ ดังนั้น ทีมพัฒนาจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่และคนเดินเท้าเป็นอันดับแรก และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ ในขั้นตอนการพัฒนาต่อไปความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่เรายังมุ่งเน้นและให้ความสำคัญอย่างมาก
ทั้งนี้ โครเกอร์พยายามเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เจ้าแรกที่ใช้รถไร้คนขับส่งของเดลิเวอรี่ให้ลูกค้า ก็เพื่อต้องการเพิ่มยอดขายให้ทัน วอลมาร์ท (Walmart) และอเมซอน (Amazon) ซึ่งครองตลาดอาหารและของชำเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการพยายามส่งนวัตกรรมเพื่อตีตลาดออนไลน์ ซึ่งในยุคนี้การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และการจัดสั่งเดลิเวอรี่กำลังที่เป็นนิยม
อย่างไรก็ตาม โครเกอร์และนูโร ตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถขยายขอบเขตการให้บริการจัดส่งสินค้าด้วยเดลิเวอรี่ไร้คนขับให้ครอบคลุมทุกเมืองให้ได้ในอนาคต
ภาพ : ทวิตเตอร์ @nurobots