posttoday

เขื่อนวชิราลงกรณ หัวใจ แห่งเมืองกาญจน์

08 ตุลาคม 2560

หากใครได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว จ.กาญจนบุรี เราขอแนะนำให้ลองเดินทางไปเที่ยวที่ อ.สังขละบุรี แดนดินถิ่นชาวมอญ

โดย โยโมทาโร่ 

หากใครได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว จ.กาญจนบุรี เราขอแนะนำให้ลองเดินทางไปเที่ยวที่ อ.สังขละบุรี แดนดินถิ่นชาวมอญ ซึ่งยังคงธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศริมน้ำอันเลื่องชื่อของที่นี่ หากแม่น้ำแควคือเส้นเลือดใหญ่ที่
หล่องเลี้ยงชาวเมืองกาญจน์ เขื่อนวชิราลงกรณ ก็คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงเส้นเลือดใหญ่เหล่านี้

เขื่อนวชิราลงกรณ หัวใจ แห่งเมืองกาญจน์

เขื่อนวชิราลงกรณ หรือเดิมชื่อเขื่อนเขาแหลม อยู่ห่างจาก อ.เมือง ไปทางเหนือ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 มุ่งหน้าสู่ทองผาภูมิ-สังขละบุรี ราว 153 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนแบบหินถม เสริมดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก นับเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย

มีรูปแบบการใช้งานอเนกประสงค์โดยมีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้า สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง และควบคุมปริมาณน้ำลงสู่แม่น้ำแควน้อย หากในช่วงเวลาไหนที่โรงผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิลมีปัญหา การไฟฟ้าก็จะเร่งกำลังการผลิตจากเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีปริมาณน้ำเพียงพอตลอดทั้งปีป้อนไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ ซี่งบางปีเราอาจจะได้เห็นข่าวแม่น้ำแควขึ้นสูงกว่าปกติก็เพราะมีการเร่งกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนนี่ละครับ เรียกได้ว่าเป็นเขื่อนใหญ่อันดับ 4 ของประเทศที่ขาดไปไม่ได้เลยจริงๆ

แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะมีข่าวลือเรื่องเขื่อนแตกตามคำทำนายอยู่บ่อยครั้ง แต่หากเราได้เห็นสถานที่จริงแล้วจะพบว่ายากมากที่เขื่อนวชิราลงกรณ ที่เป็นปราการกั้นน้ำที่แข็งแรงที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคจะพังทลายลงไปได้ แม้ว่าเขื่อนนี้จะเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2522 แล้วก็ตามที

เขื่อนวชิราลงกรณ หัวใจ แห่งเมืองกาญจน์

ตามประวัติเขื่อนแห่งนี้ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 5 ปี แล้วเสร็จในปี 2527 หลังจากนั้นในปี 2529 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนเขาแหลม ต่อมาจึงพระราชทานนามใหม่ว่า “เขื่อนวชิราลงกรณ” ตามพระนามของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในสมัยยังทรงเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร

เราใช้เวลาเดินทางโดยขับรถจาก อ.เมือง มาถึงเขื่อนราว 2 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อเข้าเขตพื้นที่เขื่อนวชิราลงกรณ​สิ่งแรกที่เราจะได้เห็นก็คือ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินีนาถ มีศาลาพักผ่อน ตกแต่งด้วยต้นไม้และพุ่มไม้นานาพันธุ์อย่างสวยงาม เราสามารถพักรถรับประทานอาหารบริเวณนี้ก่อนเดินทางไปที่สันเขื่อนได้

ช่วงเวลาแนะนำที่เราแนะนำให้มาเที่ยวที่เขื่อนวชิราลงกรณ คือช่วงประมาณ 06.00-08.00 น. และ 16.00-18.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่อากาศกำลังเย็นสบายลมแรงกำลังดี แสงสวยเหมาะกับการถ่ายภาพอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อขับรถเข้าไปด้านในจะเป็นทางที่ขึ้นไปยังสันเขื่อน เราสามารถขับรถขึ้นไปจอดชมวิวทิวทัศน์บริเวณสันเขื่อนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.

เขื่อนวชิราลงกรณ หัวใจ แห่งเมืองกาญจน์

ด้านบนเราจะได้เห็นความสวยงามของเขื่อนที่กั้น แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำซองกาเลีย และแม่น้ำรันตี ก่อนจะไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย ที่เรานิยมไปล่องแพกันนั่นเอง บริเวณโดยรอบเขื่อนระหว่างทางเข้า เราจะได้เห็น มีบริการเช่าเรือ และแพเที่ยวชมเหนือเขื่อน การล่องแพเราจะได้เห็นทิวทัศน์ธรรมชาติ ของอ่างเก็บน้ำที่กินพื้นที่กว้างไปถึง อ.สังขละบุรี ที่มีสะพานมอญ เมืองบาดาล และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมที่จะเป็นเป้าหมายต่อไปของเรา

ออกจากเขื่อนวชิราลงกรณ จุดหมายปลายทางคือมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เพื่อพักชมความสวยงามของอ่างเก็บน้ำที่เกิดจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ โดยเฉพาะจุดชมวิวป้อมปี่ จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของที่นี่ การเดินทางมาที่จุดชมวิวป้อมปี่ให้ออกมาถนนสาย 323 มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมทางเดียวกับสังขละบุรี

ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดคือช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. น้ำกำลังเต็มสวยงาม อากาศเย็นๆ ออกไปทางหนาวมากในช่วงกลางคืนเพราะเรากำลังพักอยู่กลางป่าและริมน้ำ เวลาเช้าคุณอาจจะได้เห็นไอหมอกลอยขึ้นจากผิวน้ำยามแสงแรกอาทิตย์ส่องกระทบ

เขื่อนวชิราลงกรณ หัวใจ แห่งเมืองกาญจน์

จุดกางเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ป้อมปี่ ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเดียวกันกับเทือกเขาตะนาวศรี ทอดตัวตามแนวเหนือใต้ มีความสูงประมาณ 100-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาใหญ่ มีความสูงประมาณ 1,767 เมตร ครอบคลุมทั้งส่วนที่เป็นผืนป่าที่สมบูรณ์โดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม กินพื้นที่ใน อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ ทิศตะวันตกติดกับเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ทิศเหนือติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำสายสำคัญของ จ.กาญจนบุรีเกือบทั้งหมด หากขาดพื้นที่ป่าเบญจพรรณตรงนี้ไป

ในส่วนของที่พักนักท่องเที่ยวได้รับการปรับปรุงอย่างสวยงามน่าพักผ่อน มีต้นไม้ร่มรื่น สนามหญ้า ปรับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับการกางเต็นท์พักผ่อน เราแนะนำว่าการมาเที่ยวที่นี่หากมีผู้สูงอายุและเด็กติดตามไปด้วยแนะนำให้จองห้องพักในราคาคืนละ 900 บาท จะสบายกว่ามากแต่หากชอบแนวใกล้ชิดธรรมชาตินำเต็นท์มาเอง อาจจะต้องเหนื่อยขนอุปกรณ์ใส่รถเข็นของอุทยานขึ้นเนินเขาสักหน่อยแต่พ้นเนินเขาไปคุณจะได้เห็นวิวอ่างเก็บน้ำแบบ 180 องศาที่มีความสวยงามอย่างน่าประทับใจ

เราแนะนำว่าก่อนมาที่นี่ควรเตรียมอาหารติดสำหรับการประกอบอาหารอย่างน้อยๆ 3 มื้อขึ้นไป แต่ร้านค้าสวัสดิการ ก็มีบริการร้านอาหารและจำหน่ายเครื่องใช้ส่วนตัวเล็กๆ น้อย ขนม เครื่องดื่ม เช่น กาแฟ มีขายน้ำแข็งสำหรับแช่ของสดให้อยู่เหมือนกัน สอบถามเวลาครัวปิดให้ดี แล้วสั่งอาหารสำรองไว้เผื่อหิวกลางคืน หรือตอนเช้าในช่วงที่ครัวยังไม่เปิด

เขื่อนวชิราลงกรณ หัวใจ แห่งเมืองกาญจน์

ในช่วงเปิดแอพดูเวลาพระอาทิตย์ตกแล้วรอใช้ขาตั้งกล้องรอถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกไว้ได้เลยครับหากมาในช่วงประมาณเดือน ธ.ค.-ม.ค. ที่ฟ้าโปร่งใสโชคดีคุณอาจจะได้เห็นทางช้างเผือกปรากฏเหนืออ่างเก็บน้ำพอดี ซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองอยู่พอสมควรจะทำให้เราเห็นดาวได้ค่อนข้างชัดเจนกว่าบริเวณอื่นๆ

ส่วนช่วงเช้าเราแนะนำให้ออกเดินทางไปยังสะพานมอญที่อยู่ไม่ไกลกันมากนักเพื่อชมวิถีชีวิตอันแสนเรียบง่ายหรืออาจจะเช่าเรือชมเมืองบาดาล เป็นอันจบทริปเดินชมหัวใจแห่งเมืองกาญจน์อันแสนงดงามไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวใดในประเทศนี้เลย