posttoday

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด 1

24 มิถุนายน 2561

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน สัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปทดลองขับรถเที่ยวตามคำเชิญของบริษัท Follow Me Japan (FMJ)

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน สัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปทดลองขับรถเที่ยวตามคำเชิญของบริษัท Follow Me Japan (FMJ) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่มีความชำนาญเรื่องทัวร์ขับรถมานานนับสิบปี และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีของบรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ผมเองเคยทำทัวร์ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย พอทราบว่าทาง FMJ จะเชิญไปขับรถเที่ยว ก็รีบรับปากเพราะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อคิดหาทางต่อยอดกับธุรกิจของเราในอนาคต เส้นทางที่ไปคือ ฮอกไกโดฝั่งตะวันออก ซึ่งน่าสนใจมากเนื่องจากยังไม่เป็นที่นิยมของตลาดไทย จึงเห็นเป็นโอกาสแนะนำเส้นทางใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวไทยด้วย พอลงไปดูในรายละเอียดก็พบว่าฝั่งตะวันออกของฮอกไกโดนั้นมีจุดอ่อนอยู่ตรงที่เส้นทางรถไฟไม่ครอบคลุม การจะไปเที่ยวให้ทั่วมีวิธีเดียวคือต้องขับรถเท่านั้น

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด 1

รอบนี้ผมบินจากไทยไปลงที่สนามบินฮาเนดะแล้วต่อสายการบินภายในประเทศไปลงที่สนามบิน Memambestu ตอนจองตั๋วต้องระวังให้ดี เพราะมีสนามบินอีกแห่งชื่อคล้ายกันคือ Mombetsu เวลาจองจึงมีโอกาสพลาดได้ทั้งผู้จองก็คือเรา หรือผู้รับจอง ถ้าจองตรงกับสายการบินคงพลาดยากเพราะเขาคุ้นเคย แต่ถ้าจองผ่านบริษัททัวร์ต้องย้ำให้ดี เพราะตัวย่อของสองสนามบินนี้มันดันคล้ายกันอีก MMB = Memambetsu และ MBE = Mombetsu เจอคนที่ไม่รู้จักและไม่รอบคอบ จองผิดกันมาไม่น้อย ไม่ต้องอื่นไกล ทีมถ่ายรายการทีวีของผมก็ยังเคยพลาดมาแล้วกับสองสนามบินนี้เมื่อหลายปีก่อน ผมเสียเวลาเปลี่ยนเครื่องไม่นาน แต่สำหรับมือใหม่อย่าชะล่าใจ ข้อเสียของสนามบินฮาเนดะ คือ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศกับในประเทศอยู่ห่างกัน ต้องนั่งรถบัสหรือรถไฟรางเพื่อเปลี่ยนอาคาร ดังนั้นเมื่อลงจากเครื่องแล้ว ขอให้รีบผ่าน ตม.แล้วไปรอรับกระเป๋า ถ้ากระเป๋ายังไม่มาก็แวะทำธุระในห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วให้รีบเดินผ่านศุลกากรออกไปยังเคาน์เตอร์เช็กอินเปลี่ยนเครื่องเพื่อส่งกระเป๋า จากนั้นจึงนั่งรถบัสรับส่งไปยังอาคารผู้โดยสารในประเทศซึ่งมีบริการทุก 15-20 นาที กระบวนการที่ว่ามาทั้งหมดนี้ผมใช้เวลาประมาณ 40 นาที ตั้งแต่เครื่องลงจนพาตัวมาถึงยัง Domestic Terminal เรียบร้อย ยังเหลือเวลานั่งจิบกาแฟและเข้าห้องน้ำอีกพักใหญ่ก่อนจะเรียกขึ้นเครื่อง

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด 1

ผมหลับไปตั้งแต่เครื่องยังไม่เทกออฟ มาตื่นอีกทีตอนเกือบจะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ต้องงีบเอาแรงเพราะลงเครื่องปุ๊บทำงานทันที ตอนรับกระเป๋าสังเกตคนรอบกาย ทำไมส่วนใหญ่ใส่เสื้อหนาวกัน ตามความคิดผม ต้นเดือน มิ.ย.มันเข้าหน้าร้อนแล้วนิ เลยเตรียมเสื้อยืดแขนสั้นกับแขนยาวมาอย่างละ 3-4 ตัว กับแจ็กเกตคู่ใจที่ใส่ขึ้นเครื่อง เจอสภาพตรงหน้ารู้ชะตาตัวเองทันที แต่ทำใจดีสู้เสือรับกระเป๋าแล้วลากออกไปยังโถงขาเข้า เจ้าหน้าที่มายืนรอรับชื่อคุณมินาโกะ เพื่อนเก่าที่เจอกันตั้งแต่ทำทัวร์สกี้เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอยังทำงานที่ Rusutsu Resort แล้วก็เปลี่ยนงานมา 2 แห่ง จนเมื่อปีที่แล้วมีโอกาสคุยกันเรื่องทัวร์ขับรถ เพราะผมเองก็เคยทำแต่ยังกระเตาะกระแตะมินาโกะเลยชวนให้มาดูวิธีการทำทัวร์ในแบบของ FMJ พร้อมเชิญชวนให้มาร่วมมือกัน เพราะฐานลูกค้าอยู่ในระนาบใกล้เคียงกัน จึงเกิดทริปนี้ขึ้น พอลากกระเป๋าออกนอกอาคารปุ๊บ ความเย็นระดับ 10 กว่าองศาก็มาปะทะทันที คำนวณแล้วว่าถ้าใส่แขนยาวทุกวันกับแจ็กเกตอีกตัวคงพอเอาตัวรอดได้ จึงละความคิดที่จะแวะร้านยูนิโคล แล้วรีบเอาสัมภาระขึ้นรถ รถที่ใช้ในครั้งนี้เป็น Toyota Prius ที่คุณมินาโกะเช่าจาก Toyota Rent a Car สาขา Poplar แถวหน้าสนามบิน Chitose แล้วขับมารับผม อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าขับตรงมาเลยหรอกครับ ตามรายการของ FMJ ทัวร์ขับรถเส้นทางนี้เริ่มต้นจากสนามบินชิโตเสะ ขับขึ้นฟุราโนะ โซอุนเคียว แล้วตัดข้ามมาเองการุ อะบาชิริ ใช้เวลา 3-4 วัน ผมมาเข้ารายการเขาในช่วงกลางของการเดินทางพอดี

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด 1

การขับรถในญี่ปุ่นนั้นไม่ยากเลย โดยเฉพาะกับคนไทยเรา เพราะคนญี่ปุ่นขับกันอย่างเคร่งวินัย ถนนหนทางดีมีคุณภาพ ป้ายบอกเส้นทางชัดเจน และสิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ก็คือ เจ้าเครื่อง Navigator แค่ลำพังมีแต่เครื่องอย่างเดียวไม่พอครับ เพราะถึงแม้เครื่องนี้จะสามารถบอกเส้นทางเป็นภาษาอังกฤษได้ก็ตาม แต่หากท่านไม่ทราบตำแหน่งของจุดหมายปลายทาง ก็เป็นเรื่องยุ่งยากเหมือนกัน หลายท่านใช้วิธีกรอกเบอร์โทรศัพท์ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ได้กับสถานที่ที่มีการบันทึกไว้กับหน่วยงาน เช่น โรงแรม ร้านอาหาร แต่สถานที่เที่ยวหลายแห่งเมื่อท่านใช้หมายเลขโทรศัพท์ระบุตำแหน่ง มันอาจจะพาไปถึงก็จริงแต่ถึงด้านหน้า ซึ่งหลายแห่งไม่มีที่จอดรถหรือที่จอดรถอยู่คนละที่ ดังนั้นวิธีที่จะระบุตำแหน่งให้แม่นยำที่สุด คือ การใช้ Map Code เพราะสถานที่เที่ยวหลายแห่งไม่มีเบอร์โทรศัพท์ ลองนึกภาพว่าท่านจะขับรถไปชมวิวทะเลสาบหรือภูเขา ที่มันไม่มีเบอร์โทรสิครับ Map Code จึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัว ทีมงานของ FMJ เขาเก่งเรื่องนี้ครับ เพราะเขาให้ Map Code ที่ระบุถึงตำแหน่งที่จอดรถของสถานที่นั้นๆ เลย และไม่ใช่ใครก็หาได้นะครับ มันต้องมีการไปสถานที่จริง ระบุตำแหน่งกันจริงๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่ FMJ เขาหนือชั้นกว่าใคร

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด 1

คุณมินาโกะบันทึก Map Code เข้าไปในเครื่องบอกเส้นทาง ก่อนจะออกรถบึ่งไปยังจุดหมายปลายทางที่โรงแรม Hokuten no Oka ในเครือ Tsuruga เจ้าพ่อที่พักสไตล์ Ainu Contemporary ที่โดดเด่นที่สุดในฮอกไกโด เดิมทีผมจะต้องมาถึงคืนก่อนหน้าวันนี้ แต่ดันติดภารกิจด่วนเลยต้องบินมาถึงวันนี้แทน คุณมินาโกะอยากให้ผมเห็นที่พักที่เขาใช้บริการลูกค้า เลยพากันมาดู เมื่อเทียบกับสองสามแห่งที่ผมเคยเข้าพัก โรงแรมนี้อยู่ในระดับกลางๆ ของเครือ Tsuruga ไม่หรูเกินไป และก็ไม่ใช่ระดับที่กรุ๊ปทัวร์ส่วนใหญ่นอน แต่ถ้าอยากได้ห้องหรูหราเขาก็มีห้องพักระดับ Ko no Za ที่แยกออกมาเป็นเอกเทศบนชั้น 2 แต่ละห้องตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ของ Tsuruga เป๊ะ แถมมีสวนเล็กๆ และบ่อแช่น้ำร้อนส่วนตัวให้ด้วย อีกอย่างที่ชอบมาก คือ บาร์ที่อยู่ชั้นล่าง นอกจากมีเตาผิงตามมาตรฐานของเครือแล้ว ยังมีบาร์เหล้าที่ใช้แผ่นไม้ขนาดใหญ่ทั้งแผ่นวางเป็นเคาน์เตอร์ให้นั่งจิบ พร้อมชมวิวด้านนอก ตกเย็นมีนักดนตรีมาเล่นพิณ (Harp) ให้ฟัง ตรงที่นั่งฟังก็เก๋ซะ ใช้เก้าอี้หลากสไตล์มาจัดวางให้ดูผ่อนคลาย และที่ขาดไม่ได้ คือ บ่อน้ำร้อนที่มองเห็นวิวด้านนอกสบายตา และมี Hot stone sauna แผ่นหินร้อนไว้นอนให้เหงื่อซึมบริการด้วย แอบเสียดายที่ไม่ได้มานอนโรงแรมดีๆ แบบนี้ แต่คงต้องมีโอกาสแหละ เพราะวางแผนไว้ว่าจะพาคนไทยมาขับรถเที่ยวแถวนี้ช่วงเดือน ต.ค. ใครสนใจหลังไมค์มาได้ครับ