New gen politic:เกณิกา อุ่นจิตร์ ขอโอกาสชาวสระบุรีเขต3 พัฒนาบ้านเกิด

ลงสนามการเมืองครั้งแรก ผึ้ง-นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ ผู้สมัครส.ส.เขต3 อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองแค อำเภอหนองแซง และอำเภอเมืองสระบุรี (เฉพาะตำบลหนองโน)  จังหวัดสระบุรี พรรคพลังประชารัฐ พกความมุ่งมั่น ตั้งใจ เต็มเปี่ยม

ขอโอกาส ชาวสระบุรีเขต3 ช่วยกันลงคะแนน ให้ได้ไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อไปผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่ได้ให้คำมั่นกับชาวบ้านเอาไว้

 

โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ มีโอกาส ได้เปิดใจ แนวคิด มุมมอง ความมุ่งหวังที่จะทำให้ประชาชน หลายต่อหลายเรื่อง 

 

ก่อนเข้าสู่ถนนการเมือง 

จบปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ ก่อนไปจบปริญญาโทอีก2ใบ รัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง กับ MBA-SMEs จากรั้ว ม.กรุงเทพ แล้วยังไปต่อ จนจบเป็น ดอกเตอร์ ได้ปริญญาเอกที่ การเมือง คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง  

มีหลักสูตรประกาศนียบัตร อีกหลายแห่ง หลักสูตรประกาศนียบัตร แบรนด์ผู้นำการสร้างแบรนด์ BrandKU รุ่นที่5 ม.เกษตรศาสตร์ , โครงการพัฒนาธุรกิจลูกค้า SMEs Krung Thai Modern Management for SMEs : KTB-MMS11 , หลักสูตร ABC7 สถาบันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เชิงธุรกิจ ม.ศรีปทุม เป็นต้น  

 
ก่อนก้าวเข้าสู่สนามการเมือง ได้ทำธุรกิจหลายประเภท เช่น ทำธุรกิจซาลอน ภายใต้แบรนด์ ‘ลักซ์ชัวรี ซาลอน’ เกี่ยวกับเด็กและครอบครัว ช่วงนั้น ด้วยความที่ ธุรกิจประเภทนี้ เวลานั้น ไม่ค่อยมีใครทำมากสักเท่าไหร่ กลุ่มลูกค้าแน่นอนเป็นร้านเสริมสวย ตัดผม คุณพ่อ คุณแม่ พาลูกๆ หลานๆ เด็กเล็ก มาตัดแต่งทรงผมอยู่เป็นจำนวนมาก แม้กระทั่ง กลุ่มดารา คนมีชื่อเสียงในสังคม ยังเคยพา ลูกๆหลานๆ เข้ามาใช้บริการจากร้านนี้เช่นเดียวกัน ตอนนั้นที่ทำถือว่าดีเลย บูมเลย ในระยะหลังๆ คู่แข่งเริ่มเข้ามาจับธุรกิจ ประเภทนี้มากขึ้น บวกกับช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด จากนั้นเริ่มคิดจะเข้ามาสู่สนามการเมือง เลยต้องพักกิจการ ธุรกิจนี้ไป

  

ตอนแรกเริ่มงานกับ พรรคไทยสร้างไทย มาก่อน 

เมื่อเข้ามาสู่งานการเมือง ได้รับโอกาสสนามแรกทางการเมืองจาก พรรคไทยสร้างไทย ที่มี คุณหญิงหน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ร่วมงานกันได้สักพักกับทีมคนรุ่นใหม่ ก่อนวันจะออกมา กล่าวขอบคุณโอกาสดีๆที่ได้รับมอบจาก ผู้ใหญ่ในพรรค และว่างเว้นทางการเมือง สักพัก ไม่รู้จะเอาอย่างไรต่อ ก่อนที่จะตัดสินใจมาร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จวบจนได้รับความไว้วางใจให้เป็น ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต3 สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ อันเป็นพื้นเพ ถิ่นฐานเกิด ใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน  

งานทางด้านสังคม ทั้งช่วงที่เริ่มเข้าการเมืองแล้ว ช่วงพักตัดสินใจการเมือง ได้เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทางสังคม ผู้สูงอายุ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ฉ้อโกง ทั้งจาก เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้กว้างขวาง เรื่องผู้หญิง เด็กๆ ส่วนใหญ่เป็นในกรณี จากการถูกกระทำ ความรุนแรงในครอบครัว คนรอบข้าง หรือเรื่องเกี่ยวกับเพศ ได้เข้าไปช่วยหลายกรณี ก็ดีใจ บางเรื่องถ้าไม่เริ่มเป็นข่าว ก็ไม่มีอะไร พอเราไปช่วยจนเขาได้รับความเป็นธรรม เราก็ดีไปด้วย    
  

ตัดสินใจร่วมงาน พรรคพลังประชารัฐ   

พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ให้โอกาสทุกคนเท่ากัน วัดคนที่ผลงาน และมีลุงป้อม หรือ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นนักปฏิบัติ ลงมือทำ และที่สำคัญคือเป็นพรรคที่มีก้าวข้ามความขัดแย้ง ได้เห็นการทำงานของพลเอกประวิตร อย่างใกล้ชิด ต้องยอมรับว่า ท่านคือ นักปฏิบัติ นักลงมือทำ มีภาพลักษณ์ของความประนีประนอมกับทุกภาคส่วน ถือเป็นจุดเด่นที่จะทำให้ประเทศไทยของเราก้าวข้ามความขัดแย้ง คืนความสงบสุขอีกครั้ง 

การทำงานของพลเอกประวิตรคือ การเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง และนำไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน และปัญหาปากท้องของประชาชน และท่านยังเน้นย้ำ พร้อมที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง 

 

อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงต่อประเทศชาติ ประชาชน สังคม  

อยากให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้ง และประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เศรษฐกิจ เติบโต มีความมั่นคง   
  

นโยบายพรรค ตอบโจทย์ประชาชน   

นโยบายแก้ปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งตรงกับปัญหาในพื้นที่สระบุรีเขต 3 เพราะเป็นปัญหาหลัก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพทำนาและการเกษตร จึงมั่นใจว่านโยบายนี้จะแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม

ก่อนหน้านี้ เราก็ช่วยสังคมทางด้านของที่เกี่ยวกับ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ในนาม พลังผึ้ง หลายเคส ก็โดนคนที่เป็นทาสยาเสพติด ทำร้ายร่างกายและจิตใจ จึงอยากให้แก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด เพราะทุกวันนี้เด็กเข้าถึงได้ง่ายมาก 

 

ขอคะแนนชาวสระบุรี 

การเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ และหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ก็มีความมุ่งมั่นกล้าลุย กล้าชนทุกสถานการณ์ อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่กังวลกับคู่แข่ง ถึงแม้จะเข้ามาไม่นานแต่ลงพื้นที่เข้าถึงประชาชนและมีการวางแผนงานได้ดี ได้แสกนปัญหาและความต้องการของคนในพื้นที่ได้ครบอย่างรวดเร็ว มั่นใจว่าหากได้รับโอกาสสระบุรีจะมีความเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหา พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน

พร้อมที่จะทำงานหนัก รับใช้พี่น้องประชาชน ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลเขตนี้ เดินหน้าทำงานในพื้นที่ทันที มีความสุขในการลงพื้นที่ อยากพิสูจน์ให้พ่อแม่พี่น้องชาวสระบุรีได้เห็นในถึงความตั้งใจจริง สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ขอพิสูจน์ถึงความตั้งใจผ่านการทำงาน มั่นใจว่า ชาวสระบุรีจะตัดสินลงคะแนนให้ผู้สมัคร พิจารณาจากนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายที่โฟกัสไปที่ปัญหาของแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำแล้ง เป็นปัญหาที่ไม่มีใครเคยแก้ได้ ประชาชนเรียกร้องอยากให้เข้าไปช่วยมากที่สุด

พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ส่วนตัวนั้นอยู่กึ่งกลาง มีความเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ก็ยังใกล้เคียงกับวัยผู้ใหญ่ จะเข้าใจทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ มีความผสมผสาน และมีเป้าหมายที่จะมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง

 

"นโยบายแก้ปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งตรงกับปัญหาในพื้นที่สระบุรีเขต 3 เพราะเป็นปัญหาหลัก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพทำนาและการเกษตร จึงมั่นใจว่านโยบายนี้จะแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม"