posttoday

เลือกตั้ง66: “เศรษฐา” ลั่นยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกกัญชามอมเมา

05 พฤษภาคม 2566

เศรษฐา ทวีสิน นำทัพเพื่อไทยจัดปราศรัยจังหวัดจันทบุรี ยันไม่ได้เป็นศัตรูกับพรรคการเมืองใด แต่เป็นศัตรูกับกัญชา ตนยอมติดคุกเพื่อไม่ให้ลูกหลานถูกกัญชามอมเมา

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย "นายเศรษฐา ทวีสิน" นำทัพเปิดเวทีปราศรัยที่สนามสามเหลี่ยม ทุ่งนาเชย อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร, อดีตประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง, คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง, ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ตันเจริญ,  ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี ทั้ง 3 เขต

เลือกตั้ง66: “เศรษฐา” ลั่นยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกกัญชามอมเมา
นายเศรษฐา กล่าวว่าตั้งแต่นั่งรถเข้ามาเวทีปราศรัยได้ยินเสียงโห่ร้องไล่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะความล้มเหลวในการบริหารจัดการปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะปัญหาค่าไฟที่แพงมากในขณะนี้ แต่ยังกลับมาบอกว่าหากเป็นรัฐบาลอีกครั้งจะกลับมาลดค่าไฟ แต่ปัจจุบันเป็นรัฐบาลอยู่แล้วยังไม่สามารถทำได้ เชื่อว่าแม้จะกลับมาอีกครั้งก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนตนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย

เลือกตั้ง66: “เศรษฐา” ลั่นยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกกัญชามอมเมา

นอกจากนี้นายเศรษฐายังกล่าวถึงนโยบายกัญชาเสรีของพรรคการเมืองหนึ่ง โดยย้ำว่าตนเองไม่ได้เป็นศัตรูกับพรรคการเมืองดังกล่าว แต่เป็นศัตรูกับกัญชา และไม่ต้องการให้ลูกหลานถูกมอมเมาโดยกัญชา และพูดเรื่องนี้เยอะกระทบกับพรรคการเมืองดังกล่าว จนมีการยื่นฟ้อง พร้อมบอกยอมติดคุกเพื่อไม่ให้ลูกหลานถูกมอมเมาโดยกัญชา

เลือกตั้ง66: “เศรษฐา” ลั่นยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกกัญชามอมเมา

ขณะที่นายสุทิน ปราศรัยว่าปัญหาเศรษฐกิจของพี่น้องในจังหวัดจันทบุรี มีปัญหาราคาพืชผล ทุเรียน พลอย ซบเซา ต้องใช้คนมีประสบการณ์อย่างพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ไข เพราะเราเคยแก้ปัญหาเศรษฐกิจวิกฤตต้มยำกุ้งมา เรารู้ เราแก้ปัญหาที่ราก ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ใช้นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 5 แสนล้านบาท ครอบครัวไหนรายได้ไม่ถึง 20,000 เราพร้อมอุดหนุนให้ถึง และยังมีนโยบายอีกกว่า 70 นโยบายช่วยเหลือทั้งอาชีพสวัสดิการไปถึงรักษาพยาบาล

เลือกตั้ง66: “เศรษฐา” ลั่นยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกกัญชามอมเมา

ส่วนนายณัฐวุฒิ บอกว่า 8 ปีที่ผ่านมาพอหรือยัง กับรัฐบาลที่ไร้ความสามารถ นายกรัฐมนตรีที่ไร้วิสัยทัศน์ พอกันทีกับนักการเมืองปล้นอำนาจเราไปแล้วไม่มีฝีมือแก้ปัญหาให้พี่น้อง ต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเลือกเพื่อไทย คนจันทบุรีจะเขียนประวัติศาสตร์ร่วมกับพี่น้องชาวไทยจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ประชาธิปไตย คนจันทบุรีจะไม่ยอมอำนาจเผด็จการอีกต่อไป ไล่พลเอกประยุทธ์ออกทะเลไปได้แล้ว

เลือกตั้ง66: “เศรษฐา” ลั่นยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกกัญชามอมเมา

นอกจากนี้ นายสุชาติ ได้ขึ้นปราศรัยโดยระบุว่า  พลเอกประยุทธ์ไม่ทำอะไรเลยสัญญาซักข้อเดียว นโยบายมารดาประชารัฐ จำได้ไหมบอกสาวๆ ท้องแล้วรับเลยเงินเดือนละ 3000 บาท คลอดเสร็จได้ 10,000 บาทได้ ตนมาปราศรัยครั้งนั้น ทำให้คนรีบกลับไปทำลูกไปทำให้ท้องเลยปรากฏว่า 4 ปีผ่านมาคนเกิดเป็น 100,000 คน เพราะไปเชื่อนโยบายนี้ แต่ไม่มีคนไหนเลยได้ซัก 1 บาทแล้วอย่างนี้มันคืออะไร สัญญาปริญญาตรีจบ 18,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 400 ถึง 425 บาทแต่ก็ยังไม่ถึงไม่ทำอะไรเลยซักข้อเดียว เห็นประชาชนโง่หรืออย่างไร

ด้านนายจาตุรนต์ ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย กล่าวว่าเพราะประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย มีผู้นำที่ไร้ความสามารถ ทำให้เครื่องจักรเศรษฐกิจทุกตัวทั้งส่งออก ท่องเที่ยว ประมง ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำทั้งหมด เพราะต่อให้ประยุทธ์ไปเขาก็ไม่เจรจาด้วย ดังนั้น จะแก้ไขปัญหาได้ต้องเริ่มต้นที่รัฐบาลประชาธิปไตยก่อนเป็นเรื่องแรก เพื่อกลับมาเริ่มต้นเจรจาการค้า “FTA” หาตลาดใหม่ให้พืชผักผลไม้ สร้างรายได้จากนั้น จึงค่อยไปตามแก้กฎหมายไม่เป็นประชาธิปไตยด้วยการแก้ไขหรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เอายุทธศาสตร์ชาติออกไป เช่นนี้แล้ว ประชาธิปไตยก็จะเดินหน้าควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ เป็นประชาธิปไตยกินได้

ข่าวล่าสุด

นาวิกโยธินเจ็บเหยียบกับระเบิด บ้านหนองรี หลังเคลียร์พื้นที่คืนจากกัมพูชา