“สุวัจน์” หนุนต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารผลิตเนื้อโคราชวากิวป้อนโลก

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมคณะเข้าเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงวัวโคราชวากิว ระบบปิดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ชมโรงชำแหละและตัดแต่งเนื้อวัวโคราชวากิวและชมฟาร์มเลี้ยงวัวโคราชวากิว หนึ่งในนโยบาย”โคราชโนมิกส์” โคราชเป็นเมืองอาหารป้อนโลก ซึ่งผลิตจากคณาจารย์นักศึกษาจากมทส.มหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งโดยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจยุคทองของประเทศ เศรษฐกิจยุคทองของคนโคราช

นายสุวัจน์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ต้องชมเชยตั้งขึ้นเป็นแนวความคิดของท่านพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ที่จะให้มีมหาวิทยาลัยสอนเรื่องเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์แล้วนําไปสู่เรื่องอุตสาหกรรม รองรับนักลงทุนด้วย วันนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้เริ่มเพาะพันธุ์เนื้อวัวโคราชวากิว นักกินเนื้อ นักกินสเต็กทั่วโลกเพราะว่าเป็นเนื้ออันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และนำออกไปขายต่างประเทศ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้นำพ่อพันธุ์เชื้อเนื้อวัววากิวมาจากญี่ปุ่นแล้วมาพัฒนาให้เป็นพันธุ์เนื้อวากิวของคนไทย ซึ่งประสบความสําเร็จด้วยเนื้อหาทางด้านวิชาการ งานวิจัย ทําให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเลี้ยงจากวัวธรรมดามาเลี้ยงวัววากิว ทําให้มีรายได้มากขึ้น ตัวหนึ่งถ้าวัวธรรมดาอาจจะสักสองหมื่นบาทขายได้ แต่วากิวขายได้ถึงตัวละสองแสนบาท ถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้เกือบ 10 เท่า วันนี้เลี้ยงกันทั่วภาคอีสานรวมทั้งโคราช ปัจจุบันมีถึง 3 หมื่นตัว

นอกจาก มทส.จะเพาะพันธุ์ให้แล้วก็มีบริการสร้างโรงเชือด เพราะโรงเชือดสําคัญ ถ้าโรงเชือดไม่ได้มาตรฐาน ตามร้านอาหารโรงแรมก็จะไม่กล้าซื้อ โรงเชือดที่มีมาตรฐานต้องมีการตรวจสุขภาพ ตรวจเชื้อโรคของวัวที่ส่งเข้ามาที่โรงเชือด ที่นี่เป็นโรงเชือดที่มีมาตรฐานฮาลาล มีสัตวแพทย์ ถือว่าเป็นโรงเชือดที่มาตรฐานที่สุดในประเทศไทยวันหนึ่งเชือดแล้วปรับแต่งเนื้อวากิวได้ประมาณ 35-40 ตัว