เลือกตั้ง66:จุรินทร์ ยันประชาธิปัตย์รื้อสัญญาแก้ไฟแพงไม่เป็นภาระประชาชน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายบัญญัติบรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรค นายองอาจคล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ กทม.  นายไชยยศ  จิรเมธากร และผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จัดกิจกรรม "ประชาชน ประชาธิปัตย์ ประชาธิปไตย" ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีการนำป้ายและหมายเลขพรรคประชาธิปัตย์ ตั้ง ที่บริเวณกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยพร้อมถ่ายรูปร่วมกันโดยชูสัญลักษณ์ ป. สื่อความหมาย " ประชาชน ประชาธิปัตย์ ประชาธิปไตย" 

นายจุรินทร์ กล่าวว่าวันนี้วันที่ 26 เมษายน ตรงกับหมายเลขของพรรค จึงขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนคนไทยทั่วประเทศ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม ด้วยประชาธิปไตยไม่โกง และจุดยืน 4 ทำ 3 ไม่ คือ ยืนหยัดในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข , ขับเคลื่อนประเทศด้วยประชาธิปไตยไม่โกง , ขับเคลื่อนประเทศด้วยประชาธิปไตยอิ่มท้อง สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ปราบปรามยาเสพติด สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ไม่เอากัญชาเสรี ไม่ยกเลิกมาตรา 112 ไม่เอายาเสพติดทุกชนิด และไม่ทุจริตคอรัปชั่น ทั้งหมดก็เพื่อประเทศชาติ และคนไทยทั้งประเทศ

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ย้ำถึงยุทธศาสตร์ ทั้ง การหาเสียนในพื้นที่ กทม. และทั่วประเทศ ว่ายังใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจาย 3 ทัพใหญ่ พ่วงด้วยทีมเศรษฐกิจของพรรคที่จะมีการปราศรัยใหญ่ ปราศรัยย่อย และลงพื้นที่แบบเคาะประตูบ้าน ซึ่งจะทำจนถึง 6 โมงเย็นของวันที่ 13 พฤษภาคม 

ส่วนที่หลายพรรคการเมืองชูนโยบายแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายแก้ไขปัญหาพลังงานที่จะดำเนินการอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรที่แก้ได้ก็จะเร่งดำเนินการ ส่วนอะไรที่ทำไม่ได้ก็จะชี้แจงเหตุผลตรงๆกับประชาชน แต่ยืนยันว่า ทุกนโยบายจะนำไปสู่การแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพงให้กับประชาชนได้ ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึง การวิพากษ์วิจารณ์ บทเรียนวิชาภาษาไทย ในแบบเรียนภาษาพาที ของกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มองว่า กระทรวงฯจะต้องเข้าไปดูภาพรวมของหลักสูตรว่าสอดกับสภาพสังคมในปัจจุบันหรือไม่ พร้อมย้ำว่าพรรคฯเน้นเรื่องการสร้างคนด้วยการศึกษา ให้มีทักษะที่เข้มแข็ง ทักษะใหม่ๆ รองรับเศรษฐกิจในอนาคต  ทำให้คนคิดดี ทำดี และคิดเป็น ทำเป็นด้วย เพราะที่ผ่านมาระบบการศึกษามักสอนให้คนท่องจำ

สุดท้ายก็ทำไม่เป็น ถือเป็นจุดอ่อนที่พรรคฯจะเข้าไปแก้ เพื่อให้คนที่จบการศึกษาทำงานได้อย่างแท้จริง  ส่วนหลักสูตรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต้องเข้าไปดูว่าเป็นหลักสูตรของกระทรวงฯ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ต้องเข้าไปตรงจสอบไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด เน้นย้ำให้สถานศึกษา ไม่เผยแพร่หลักสูตรที่ไม่ถูกต้อง ที่สำคัญคือ ต้องสนับสนุนการศึกษาให้ทันโลก ทันสมัย มีความรู้ และปฏิบัติได้จริงในโลกสมัยใหม่