เลือกตั้ง66:ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยสร้างไทย ยื่นฟ้อง เจ้าหน้าที่รัฐทำค่าไฟแพง
ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยสร้างไทย รวบรวมรายชื่อประชาชน ยื่นฟ้องศาล เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง ตั้งข้อสงสัย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เปิดประมูลโรงไฟฟ้า ส่งผลเอกชนรายใหญ่ได้สัมปทาน เหมาะสมหรือไม่ อัด ยุคประยุทธ์ ไม่แก้ปัญหา เผย ศาลนัดตรวจคำฟ้อง 8พ.ค.
วันที่25เม.ย. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการสำนัก ปราบโกงพรรคไทยสร้างไทย มอบหมายให้ นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรค นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมทีมกฎหมายร่วมกับพี่น้องประชาชน ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีส่วนทำให้ ค่าไฟฟ้าแพง
นายปริเยศเปิดเผยว่า มาทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาเรื่องของค่าไฟฟ้าที่เป็นปัญหาอย่างรุนแรง เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปี การทำงานการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับไฟฟ้า เป็นการแก้ปัญหาที่อัปยศอดสูมาก ไม่มีแนวโน้มที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ หลายต่อหลายครั้งเลือกใช้วิธีการเยียวยาซึ่งไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดเหมือนกับเอาผักชีโรยหน้า ในนามของพรรคไทยสร้างไทย มาขับเคลื่อนทำหน้าที่ตรงนี้แทนประชาชน ในการที่จะดำเนินการเรียกฟ้องในครั้งนี้ ในส่วนของ พรบ. ที่เกี่ยวข้องที่มีการพูดถึงโดยตลอดคือ พรบ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 และเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้า
ประชาชน มีข้อสงสัยหลายเรื่อง หลังจากที่มีพรรคการเมืองหลายพรรค ออกมาขับเคลื่อนพยายามที่จะสื่อความและชี้ให้เห็นถึงปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าไฟฟ้าส่วนเกิน ที่ตกเป็นภาระของประชาชน ต้องยอมรับว่า ประชาชนเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องและในช่วงรอยต่อระหว่างนี้ทุกอย่างรอได้แต่บิลค่าไฟไม่รอ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าประชาชาจะตัดใจจากปัญหาก่อน หรือจะโดนตัดไฟก่อน พรรคไทยสร้างไทย ขออาสาเป็นทัพหน้าในการต่อสู้เรื่องนี้ กับกลุ่มคนที่ทำให้เกิดความอัปยศทางค่าไฟ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้ บุคคลกลุ่มดังกล่าว ต้องได้รับความรับผิดชอบและต้องได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม
นายรณกาจกล่าวว่า ปมปัญหาที่เกิดขึ้น จากการศึกกษาข้อมูลและรับฟังเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนพบว่า ตามข้อเท็จจริงในปี 2555 มีการประมูลโรงไฟฟ้าขนาด 5,000 เมกะวัตต์ เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งการประมูลในครั้งดังกล่าว มีเสียงวิจารณ์และมีคำถามมากมายจากฝั่งของประชาชนและหน่วยงานต่างๆว่า การประมูลนี้เกิดขึ้นโดยที่มีเอกชนรายใหญ่ อยู่จำนวนหนึ่งที่ได้สัมปทานไปทั้งหมด และ ปี 2557 คสช. เข้ามายึดอำนาจจนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารต่อคำถามที่สำคัญคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2555 รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โปร่งใสมากน้อยเพียงใด หรือมีความเหมาะสมอยู่แล้ว คำถามเหล่านี้ถูกโยงมาจนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ถ้ามองเห็นไปในทิศทางเดียว หมายความว่า คุณจะไม่แก้ไขอะไรเลยกับค่าครองชีพ ค่าไฟที่มันแพงขึ้น หรือถ้าไม่เห็นด้วยก็จำเป็นที่จะต้องเร่งเดินหน้าเจรจาในสัญญาพวกนี้ให้มีความเหมาะสมให้มีความเป็นธรรมมากขึ้นหรือไม่
รัฐบาลชุดนี้ มีอำนาจอยู่เต็มมือสามารถที่จะเร่งเดินหน้ากับเอกชนเพื่อเจรจากับสัญญาที่ดูเหมือนอาจจะไม่เป็นธรรม ให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ให้เหมาะสมกับค่าครองชีพของคนปัจจุบันมากขึ้น
พรรคไทยสร้างไทยมองว่า การกระทำของผู้ถูกฟ้องซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ของ กฟผ.ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่โจทก์ รัฐและประชาชน หรือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หรือรัฐและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนคู่สัญญาให้ได้รับประโยชน์จากค่าไฟฟ้าผันแปร(Ft) แล้วผลักภาระค่าใช้จ่ายให้โจทก์และประชาชนหรือรัฐเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 จึงขอศาลได้โปรดพิจารณารับฟ้องและไต่สวนมูลฟ้องเรียกพยานหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของผู้เกี่ยวข้องเพื่อเอาผิดต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ศาลได้รับคำร้องไว้พร้อมนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในขั้นตรวจคำฟ้อง ในวันที่ 8 พ.ค.66