เลือกตั้ง66:เวทีดีเบตเนชั่น8พรรคอ้อนประชาชนไปเลือกตั้งกำหนดอนาคตประเทศ
8ตัวแทนพรรคการเมืองอ้อนประชาชนเลือก และไปทำหน้าที่ลงคะแนน ชาติไทยพัฒนาย้ำใครได้เสียงข้างมากพร้อมจับมือด้วย ก้าวไกล เพื่อไทย ไทยสร้างไทย ย้ำชัด ไม่จับ รทสช-พปชร ชัยวุฒิ ย้อนขั้ว ปชต.ใครอยากจับ ก้าวไกลบ้าง เสธ.หิ ชี้ ประยุทธ์ จำต้องออกมารัฐประหาร ไม่ให้เกิดนองเลือด
เวทีดีเบตอนาคตประเทศไทย ที่เวทีเกาะกลางอุทยานสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เวทีส่งท้ายนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองระดับภูมิภาค ภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” จัดโดยสื่อเครือเนชั่น ซึ่งเป็นเวทีดีเบตภาคเหนือในคำถามว่ามีจุดยืนไม่ตั้งรัฐบาลกับใคร
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ความแตกแยกต้องหมดไป เราไม่จำเป็นเลือกอยู่ข้างไหน อยู่ที่ว่านโยบายใครดี ตอนนี้ประเทศมีปัญหามากมาย ไม่มีเวลามาทะเลาะกัน ควรฟังให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ นโยบายดีก็สนับสนุน การจะร่วมกับใคร ฟังเสียงประชาชน หากประชาชนเลือกใครเป็นเสียงข้างมากก็ร่วมกับพรรคนั้น แม้เป็นพรรคไม่ใหญ่แต่มีจุดยืนชัดเจน ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ มีผลงานเป็นรูปธรรม เราไม่ทะเลาะกับใคร แต่คิดว่าจะทำอะไรเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีทหารที่รับราชการมายุ่งเกี่ยวการเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่เอาเปรียบใคร อยากให้อยู่กับความเป็นจริง ไม่ใช่ไปพูดอะไรก็ด่าๆ ถ้าคุณเป็นรัฐบาลบางทีก็ทำไม่ได้หรอก
นายหิมาลัย ผิวพรรณ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ชื่นชมพรรคคนรุ่นใหม่ ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน พรรคทหารจำแลง ไม่รู้คือพรรคไหน ตอนนี้หัวหน้าคือ นายพีระพันธ์ อยู่ในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด วันที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาแก้ปัญหา ถ้าไม่เข้ามาวันนั้น ประเทศเราอาจนองเลือด เพราะตอนนั้นมีข่าวจะใช้อาวุธสงครามกับประชาชน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคก้าวไกล กล่าววว่า ความเป็นจริงตอนนี้ 8ปีที่ผ่านมา รัฐประหาร สืบทอดอำนาจ ทำให้ประเทศถอยหลัง ความเป็นจริง นายกฯที่ประชาชนให้การยอมรับจะแก้ปัญหา ไม่ซุกปัญหาไว้ใต้พรม
นต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ที่ลาออกควรลาอกจากทหาร แล้วมาลงการเมือง ขอให้เข้ามาตามระบบ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เหตุของความขัดแย้ง2ฝ่าย ไม่ใช่เหตุของการปฏิวัติ สหรัฐก็มี2ฝ่าย ไม่เห็นเขาจะปฏิวัติ ทหารเขาเคลียร์เสร็จก็กลับ ไม่ใช่มาปฏิวัติ
นายหิมาลัย ผิวพรรณ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เรื่องตั้งรัฐบาลกับใคร ก็เป็นสิทธิของท่าน ส่วนปัญหาความขัดแย้งวันนี้ นำไปสู่การใช้ความรุนแรง อำนาจรัฐบริหารประเทศไม่ได้ ไม่มีหลักนิติรัฐ ที่สำคัญที่สุดเปิดให้มีการเจรจาแล้วหลายรอบ ตกลงไม่ได้ ประเทศถึงทางตัน เลยใช้วิธีการสุดท้าย การตั้งรัฐบาลก็เป็นเรื่องสภาฯ ปฏิวัติแล้ว ก็เดินหน้าไปสู่ความสงบ รัฐบาลก็อยู่ตามระบอบประชาธิปไตย
นายจุลพันธ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยโดนกระทำ โดนรัฐประหาร ไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิวัติ เป็นสิ่งรับไม่ได้ น่ารังเกียจ ส่วนใครยกเหตุผลอะไร ไม่ต้องมาอ้าง แต่ชาวบ้านเขารู้ ทำประเทศเสียหายเท่าไหร่ เขารอตัดสินวันเลือกตั้ง
นายชัยวุฒิกล่าวว่า เราจะคุยกันที่อุดมการณ์ อยากถามกลับทุกคน ใครจะจับมือพรรคก้าวไกล พรรคฟ้าเดียวกันจำแลง และยังมีกลุ่มทุนของนายธนาธร
นายอรรถวิชช์กล่าวว่า เคยเป่านกหวีดเพราะไม่เห็นด้วยพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย แต่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ
นายจุลพันธ์กล่าวว่า จะจับมือกับใคร คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ มีส่วนร่วมรัฐประหาร ไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้
นายปดิพัทธ์กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลจะเข้าไป สร้างการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ไปบริหารประเทศเท่านั้น แต่จะเอาผิดกับคนทำรัฐประหารด้วย
นายหิมาลัยกล่าวว่า วันนั้นทำไมไม่คุยให้เรียบร้อย ถ้าคุยเรียบร้อยคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ ทหารคงไม่ออกมา เขาออกมาก็ออกมาไม่นาน เมื่อมีกติกาก็เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ให้มีการเลือกตั้ง นายจุลพันธ์กล่าวว่า นายหิมาลัยบอกว่า เข้ามาเดี๋ยวก็ออกไป แต่นี่9ปีแล้ว เท่ากับช่วงชีวิตคนๆหนึ่งเลย
นายหิมาลัยกล่าวว่า เมื่อจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้แพ้ ก็ต้องยอมรับ
นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า ประชามติรัฐธรรมนูญปี2560 ประชาชน นักการเมืองเพื่อไทย โดนจับกุมคุมขัง เป็นการประชามติไม่มีความเป็นธรรม เลยเป็นผลพวง เราเลยได้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯมา9ปี
นายหิมาลัยกล่าวว่า กฎหมายบังคับใช้ทั่วไป บางคนมีคนชกใต้เข็มขัด กรรมกาเลยจับ ประชาธิปไตย แพ้คะแนนเสียงเดียวก็คือ แพ้ เมื่อสอบตกก็คือสอบตก อย่าไปด่าครู ด่าอาจารย์
นายจุลพันธ์กล่าวว่า กติกานี้วิ่ง100เมตร แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไปวิ่งที่เส้น50 เมตรแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ตลอดช่วงเวลาของการชี้แจงที่ให้แต่ละพรรคเน้นย้ำจุดยืน จะจับมือหรือไม่จับมือกับใครตั้งรัฐบาล เต็มไปด้วยการพาดพิง มีการใช้วาทกรรมของแต่ละฝ่ายกันอย่างดุเดือด และทำให้ต้องมีการชี้แจงกันไปมาหลายครั้ง เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหา จากตัวแทนบางพรรคที่ตั้งคำถามเข้ามา
เหตุใดประชาชนต้องเลือกพรรคของท่าน
นายนราพัฒน์ แก้วทอง พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ความขัดแย้งการเมือง เป็นปัญหาการเดินหน้า อย่างเห็นทุกพรรคมองปัญหา เศรษฐกิจปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญ ตัวเลขส่งออกของเราที่ผ่านมาได้ประคับประคองประเทศ เรื่องท่องเที่ยวก็ต้องเตรียมให้พร้อม เราเคยพาประเทศฝ่าวิกฤติมาได้ รอบนี้ก็มั่นใจประชาธิปัตย์จะนำพาประเทศไปได้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดแข็ง แคนดิเดตนายกฯ ผู้สมัครส.ส.เขต และนโยบาย ครอบคลุมประชาชนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่ม นโยบายตั้งแต่อดีตถึงวันนี้ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทุกข้อ ขอให้เลือกเพื่อไทยเบอร์29 และผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทุกคน 
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรามีนโยบายที่ดีที่พร้อมทำให้ประชาชน พล.อ.ประวิตร ชัดเจน เพราะเห็นว่าตอนนี้ยังมีความขัดแย้ง เราต้องไปข้างหน้า ก้าวข้ามไปให้ได้ ลุงป้อมเป็นนายกฯ ไม่มีปฏิวัติแน่นอน ที่สำคัญต้องเดินหน้าประเทศให้มั่นคงเข้มแข็งให้ได้ ถ้ามีนักการเมืองไม่เข้าใจ ประเทศอาจฉิบหายได้
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เราต้องการการเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนจากประชาธิปไตยจอมปลอม ไปสู่เต็มใบ แก้เศรษฐกิจที่ไม่ใช่แค่กระจุกตัว ไม่ให้อำนาจทุกอย่างรวมที่ส่วนกลาง เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราจริงใจ นำเสนอกับประชาชน ถ้าเบื่อกับคนเดิมๆ ขอให้เลือกก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม
นต.ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า เราชัดเจนไม่จับมือกับแกนนำรัฐประหารที่ผ่านมา ไม่ต้องเลือกลุงคนไหนเป็นนายกฯ ประชาธิปไตยถล่มทลาย ก็ไม่มีการรัฐประหาร เรามีผู้นำพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่เสมอต้นเสมอปลาย จริงใจ มีจุดยืนชัดเจน เป็นจุดแข็งของเราที่จะให้ประชาชนเลือก
นายหิมาลัย ผิวพรรณ จากพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวว่า หากอยากได้สวัสดิการรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จะดูแลต่อไป รวมถึงชาวรากหญ้าด้วย การก่อสร้างสาธารณูปโภค ทางด่วน มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า ก็ทำแล้ว และจะทำต่อไป
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า จะทำให้ประเทศมั่งคง สร้างโอกาสให้ประชาชนเท่าเทียม ทำให้ทุกคนได้สวัสดิการต่างๆที่ดี จะสร้างประเทศยั่งยืนเพื่อลูกหลานไทย เราไม่มีนโยบายประชานิยมมากนัก เพราะรู้งบประมาณมีจำกัด จึงอยากใช้งบประมาณในทางที่สร้างประเทศได้