posttoday

หมุดประชาธิปไตยหาย ตำรวจต้องรับแจ้งความ

19 เมษายน 2560

เฟซบุ๊ก ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม

เฟซบุ๊ก ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม
 

ว่าจะไม่เขียนแล้วนะ แต่อดไม่ได้ที่จะต้องทำความเข้าใจด้านกฎหมายเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน เพราะทุกวันนี้เราเพี้ยนหลักกฎหมายเกือบหมด

ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๘) บัญญัติว่า "คำกล่าวโทษ" หมายความถึงการที่บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหาย ได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีบุคคลรู้ตัวหรือไม่ก็ดีได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งขึ้น นั่นย่อมหมายความว่าการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ผู้แจ้งไม่จำเป็นต้องเป็น “เจ้าของทรัพย์”
 

การที่มีผู้คนไปแจ้งความว่า “หมุดประชาธิปไตย” ซึ่งสร้างโดยรัฐบาลแห่งสยามประเทศ ณ เวลานั้นหายไป ก็แสดงว่าต้องการให้พนักงานสอบสวนซึ่งมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาทั้งปวง (มาตรา ๑๒๑) รวบรวมหลักฐานทุกชนิดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหาว่ามีการลักเอาทรัพย์คือหมุดประชาธิปไตยของรัฐบาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา (มาตรา ๑๓๑)

นี่คือข้อกฎหมายที่นายตำรวจทุกผู้ทุกนามควรจะทราบในขณะที่เข้ารับการตำรวจเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์

การที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางคนตั้งคำถามแบบไม่มีความฉลาดให้เห็น ว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นผู้เสียหาย แจ้งความได้หรือไม่ ยกตัวบทกฎหมายมาให้อ่านขนาดนี้ ถ้าไม่รู้อีกก็ไม่รู้ว่าจะมาเป็นตำรวจทำไม บางคนบอกว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบทรัพย์สินทุกเรื่องเหรอ นี่ยิ่งไม่ฉลาดและรู้เรื่องกฎหมายเลยแม้แต่น้อย หนักกว่านั้นผู้ใหญ่บางคนว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องปากท้องประชาชน อยากถามสักนิดเถอะครับว่า เรือดำน้ำ รถถัง เครื่องบิน มันเป็นเรื่องปากท้องของประชาชนที่ไหนครับ

ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ยิ่งเดินหน้ากลับรู้สึกยิ่งถอยหลัง มีแต่ประโยชน์พวกพ้อง ให้ขั้นในรางวัลแก่พวกตัวเอง เรามักจะพูดกันว่าชนชั้นใดออกกฎหมายก็เพื่อชนชั้นนั้น ต้องเพิ่มเติมอีกประโยคครับ
 

“ชนชั้นอาชีพใดปกครองประเทศก็เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ชนชั้นอาชีพนั้นๆ”

ประชาชนทั่วไปแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรจากชนชั้นปกครองเลย.