posttoday

เปิด 6 ธุรกิจ SME ดาวรุ่งปี 69 เจาะกลยุทธ์ ปั้นธุรกิจให้แข็งแกร่ง

08 ธันวาคม 2568

ทุกการเริ่มต้นธุรกิจล้วนมีความฝันอยู่เบื้องหลัง การรู้เทรนด์ธุรกิจที่กำลังมาแรงจะช่วยให้มองเห็นโอกาสและวางแผนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

บทความนี้รวบรวมธุรกิจ SME ที่กำลังได้รับความนิยม พร้อมแนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจ หรือค้นหาธุรกิจที่น่าสนใจ ได้มีการคัดเลือก 6 กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2569 และมีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง

เจาะลึก 6 กลุ่มธุรกิจ SME น่าจับตามอง ปี 2569

1. ธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร (Pet Wellness) เทรนด์ “Pet Humanization” ที่ผู้คนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวยังคงมาแรงและเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องขยายตัวอย่างมาก ตลาดนี้ถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และเจ้าของพร้อมจ่ายเพื่อความสุขและสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่สินค้าเกรดพรีเมียม เช่น อาหารออร์แกนิก ขนมเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงบริการที่ดูแลสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร เช่น โรงแรมสัตว์เลี้ยง สปา คลินิกกายภาพบำบัด หรือแม้แต่ประกันภัยสัตว์เลี้ยง

2. ธุรกิจ Health & Wellness เพื่อสังคมสูงวัย เนื่องจากประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ธุรกิจ SME ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพจึงมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตลาดนี้ต้องการบริการที่มีคุณภาพและความใส่ใจเป็นพิเศษ ตัวอย่างธุรกิจ ได้แก่ บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ศูนย์กายภาพบำบัด คลินิกเฉพาะทาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย รวมถึงคอร์สกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจ เช่น โยคะหรือการทำสมาธิสำหรับผู้สูงวัย

3. ธุรกิจเครื่องประดับ และของตกแต่งบ้านสายมู ในยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผู้คนต่างมองหาที่พึ่งทางใจตามความเชื่อ ทำให้ “สินค้าสำหรับสายมู” กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการนำมาทำเป็นเครื่องประดับ หรือของตกแต่งบ้านที่ผสมผสานความสวยงามเข้ากับความหมายมงคล เช่น เทวรูปดีไซน์มินิมอล เครื่องประดับสายมู หรือสัญลักษณ์นำโชคต่าง ๆ หากเพิ่มการสร้างแบรนด์ที่มีเรื่องราวน่าสนใจและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ จะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อและกำลังซื้อสูงได้

4. ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ และ Plant-Based เทรนด์การรักสุขภาพยังคงเป็นกระแสหลัก โดยผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้น ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารคลีน โดยเฉพาะอาหารจากพืช (Plant-Based) จึงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โอกาสในตลาดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ร้านอาหาร แต่ยังรวมถึงการผลิตวัตถุดิบ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ หรือบริการจัดส่งอาหารคลีนแบบรายสัปดาห์ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบาย

5. ธุรกิจให้บริการเครื่องมือ AI ในยุคนี้เทคโนโลยี AI ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในบริษัทใหญ่ ธุรกิจที่ให้บริการเครื่องมือ AI สำหรับ SME จึงกลายเป็นดาวเด่นที่น่าจับตา เพราะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมหาศาล ตัวอย่างการใช้งาน AI ได้แก่ การใช้แชตบอตตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ไม่พลาดทุกโอกาสในการขาย

การใช้เครื่องมือ AI วิเคราะห์เทรนด์บนโซเชียลมีเดียเพื่อวางแผนการตลาดให้แม่นยำขึ้น หรือการใช้ AI ช่วยงานหลังบ้าน เช่น การเขียนแคปชันโฆษณา การคัดกรองใบสมัครงานเบื้องต้น หรือการประมวลผลเอกสารอัตโนมัติ

6. ธุรกิจบริการ Outsource สำหรับ SME เมื่อมีธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย งานสนับสนุน หรือ “ธุรกิจ Outsource” ก็เติบโตตามไปด้วย บริการเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมสูง เพราะช่วยให้ธุรกิจ SME ลดต้นทุนการจ้างพนักงานประจำ พร้อมมีเวลาโฟกัสกับการพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น บริการ Outsource ได้แก่ การรับทำบัญชี การตลาดดิจิทัล แอดมินดูแลลูกค้า งานกราฟิก หรือที่ปรึกษากฎหมาย

5 เทคนิคบริหารธุรกิจ SME ให้รอด และรุ่ง

การมีไอเดียที่ดีเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการอย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวใจที่จะพาธุรกิจเติบโตและก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคง

1. ใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ SME ทำงานได้คล่องตัวและเป็นระบบมากขึ้น โดยเครื่องมือต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเสมอไป ตัวอย่างเช่น ระบบจัดการหน้าร้าน (POS) ที่ช่วยบันทึกการขาย ตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ และดูข้อมูลสรุปยอดขายได้แบบเรียลไทม์

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ (Cloud Accounting) ช่วยจัดการเอกสารทางบัญชีได้ทุกที่ทุกเวลาและลดการใช้กระดาษ หรือซอฟต์แวร์บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ที่ช่วยจัดเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลได้ดีขึ้น

2. จัดการสต๊อก และการจัดซื้ออย่างชาญฉลาด การบริหารสต๊อกสินค้าเป็นหัวใจของการควบคุมต้นทุน หากสต๊อกสินค้ามากเกินไปอาจทำให้เงินทุนจม และเกิดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ ในขณะที่การมีสินค้าน้อยเกินไปอาจทำให้เสียโอกาสในการขาย ธุรกิจควรมีการวางแผนการสั่งซื้อโดยอิงจากข้อมูลการขายจริง เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ และมีเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจอย่างเหมาะสม

3. ทำการตลาดแบบ Lean วัดผลได้จริง การตลาดแบบ Lean คือการเริ่มต้นด้วยงบประมาณน้อย ๆ แต่เน้นการทดลองและวัดผลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทดลองยิงโฆษณาบนโซเชียลมีเดียด้วยกลุ่มเป้าหมายและคอนเทนต์ที่แตกต่างกันในวงเงินไม่สูง จากนั้นจึงวิเคราะห์ว่าแบบไหนได้ผลดีที่สุด แล้วค่อยทุ่มงบประมาณไปที่ช่องทางหรือแคมเปญนั้น วิธีนี้ช่วยให้เงินทุกบาททุกสตางค์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

4. รักษาคุณภาพและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ในยุคที่การแข่งขันสูง การรักษาลูกค้าเก่ามีต้นทุนสูงกว่าการหาลูกค้าใหม่ ดังนั้น การรักษามาตรฐานของสินค้าและบริการให้ดีอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ควบคู่ไปกับการจดจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกค้าประจำ การมอบส่วนลดพิเศษ หรือการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางต่าง ๆ จะช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และทำให้เกิดการซื้อซ้ำในระยะยาว

5. วางแผนเงินทุนสำรอง เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การวางแผนการเงินสำหรับอนาคต” เพราะทุกธุรกิจย่อมมีทั้งช่วงเวลาที่เติบโตและช่วงที่ต้องรับมือกับความท้าทาย การเตรียมเงินทุนสำรองไว้เสริมสภาพคล่องจะช่วยให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และพาธุรกิจผ่านช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดไปได้อย่างมั่นใจ หากโอกาสในการขยายกิจการมาถึง การมีแผนทางการเงินที่ดีจะทำให้คว้าโอกาสนั้นไว้ได้ทันท่วงที

ขอบคุณที่มา : https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/business-inspire/trending-sme-business-ideas

ข่าวล่าสุด

ทรูอัพสัญญาณ-อัพความสุข! เปิดตัว "เก่ง-น้ำปิง" สู่ครอบครัวทรู สู่มาตรฐานใหม่