แทบช็อค!เก๋งลากซากศพคนติดใต้ท้องรถขณะจะไปเที่ยวเกาะช้าง
ตราด-ครั้งแรกคิดว่าเป็นซากสุนัข!หนุ่มปทุมควบเก๋งไปเที่ยวเกาะช้างเจอชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ใต้ท้องรถ
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.64 นายสหรัฐ พลอยครุฑ อายุ 29 ปี แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตราดว่า พบชิ้นส่วนมนุษย์ติดมากับรถยนต์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เขาสมิง เข้าไปตรวจสอบในปั๊มน้ำมัน ปตท.สว่างไสว อ.แสนตุ้ง โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด รวมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ อยู่ในสภาพเละไม่สามารถระบุเพศใด ไม่มีศีรษะ เหลือเพียงลำตัว แขน และขา หลังติดอยู่ในท้องรถ รถยนต์ฮอนด้าแจ็ส หมายเลขทะเบียน 1กถ 5841 กรุงเทพมหานคร คนขับคือ นายสหรัฐ ผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดปทุมธานีส่วนสภาพรถยนต์ไม่พบร่องรอยการเฉียวชนแต่อย่างใด นายสหรัฐ ให้การเบื้องต้น ต่อ ร.ต.อ.ยอดคม อินไข ร้อยเวรสภ.เขาสมิงว่า เดินมากับเพื่อนเกือบ10คนพร้อมรถยนต์4คันเพื่อมาเที่ยวเกาะช้าง และเมื่อเข้าเขตจังหวัดตราด ได้แวะเข้าปั๊มน้ำมันเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่ระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถ เพื่อจะขับรถต่อ ปรากฏว่าเพื่อนได้สังเกตเห็นมีซากบางอย่างติดอยู่ในท้องรถ ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นซากสุนัข จึงค่อย ๆ ถอยรถออก เพื่อเอาซากออกจากรถ แต่ปรากฏว่า ซากที่พบไม่ใช่ซากสุนัข แต่เป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ทุกคนตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
จากนั้นนายสหรัฐและเพื่อน ได้ย้อนการเส้นทางการเดินทาง พบว่า ก่อนที่จะถึงปั๊มน้ำมัน ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซึ่งรถทั้ง 4 คันที่ขับตามกันมา ได้ขับคร่อมชิ้นส่วนมนุษย์ทั้ง 4 คัน ซึ่งตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นซากสุนัขมากกว่า เพราะมองไม่ชัดและยังมืดอยู่ กระทั่งมาพบว่ารถยนต์นายสหรัฐ ได้ลากชิ้นส่วนของมนุษย์ติดมาด้วย ซึ่งรถยนต์นายสหรัฐ เป็นรถยนต์คันที่ 4 ในกลุ่มของเพื่อนทั้งหมด
ขณะเดียวกัน สมาคมกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด ได้ประสานไปยังขลุงมูลนิธิ เพื่อตรวจสอบว่าในพื้นที่มีอุบัติเหตุหรือไม่ หลังตรวจสอบพบว่า ช่วงเวลาประมาณ ตี 4.30 ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบนถนนสุขุมวิท อ.ขลุง จ.จันทบุรี มุ่งหน้าไปจ.ตราด แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับไม่พบอุบัติเหตุ กระทั่งเช้านี้หลังทราบว่าพบชิ้นส่วนมนุษย์ จึงออกค้นหาอีกครั้ง ก็พบจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้เคียงกับคลองอีแงว ถนนสุขุมวิท ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์อีกหลายชิ้นแตกละเอียดกระจายอยู่เต็มถนนและริมทาง ก่อนที่อาสากู้ภัยขลุงมูลนิธิ ได้ช่วยกันเก็บรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดไว้ เพื่อติดตามตัวหายญาติต่อไป