จบด้วยดี เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้หลอกขายพันธุ์ข้าวชาวนา ส.ก.ต.ยอมรับซื้อคืน

กรณีชาวนา หมู่บ้านโคกกลอย ต.ไทยเจริญ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก ซื้อพันธุ์ข้าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง เมื่อปี2561 นำไปปลูกปีแรกขายได้ตามปกติ แต่ปีต่อมาเริ่มมีข้าวแดงปน เจ้าหน้าที่คนเดิมชดใช้ให้ แต่เมื่อปลูกปี2563 แล้วนำไปขายให้สหกรณ์แห่งหนึ่งในอ.ปะคำ แต่กลับถูกปฎิเสธเพราะไม่ใช่ข้าวหอมมะลิแท้เป็นข้าวแดงปนไม่สามารถรับซื้อได้ จนต้องขนข้าวกลับบ้าน

นายราชศักดิ์ ตระสินธุ์ สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อมูลจาก นายศิลา เทียนแก๊ด ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกลอยเจ้าของข้าวเปลือก ทราบว่าใช้พันธุ์ข้าวที่ซื้อจาก ส.ก.ต.บุรีรัมย์ จำกัด จริง ตั้งแต่ปี 2561 และผู้ใหญ่บ้านได้เก็บเมล็ดพันธุ์จากแปลงนาที่ปลูกไปทำพันธุ์ต่อเนื่องกัน ในปี 2562 และปลูกเก็บผลผลิต นำไปทำเป็นเมล็ดพันธุ์ปี 2563 การเก็บไว้ทำพันธุ์เกิน 2 ปี ทำให้มีโอกาสที่เมล็ดพันธุ์ข้าวไม่มีความบริสุทธิ์ หากเพาะปลูกพันธุ์ข้าวใช้เองไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ ประกอบกับการใช้รถเกี่ยวที่เกี่ยวหลายๆ แปลง ก็ทำให้ผลผลิตข้าวมีโอกาสเกิดการปลอมปนของข้าวแดงและพันธุ์อื่นได้

ส่วนกรณีผู้ใหญ่บ้านโพสต์คลิปว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐหลอกขายเมล็ดพันธุ์ จากการตรวจสอบปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของ ส.ก.ต.บุรีรัมย์ จำกัด เป็นผู้นำเมล็ดพันธุ์ไปจำหน่ายให้แก่ผู้ใหญ่บ้าน นายราชศักดิ์จึงได้เจรจากับทุกฝ่ายยินยอมรับซื้อข้าวเปลือกจากผู้ใหญ่บ้านที่ได้ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวของ สกต.ไปปลูกจำนวน15ตันในราคาที่เป็นธรรมตามความเป็นจริงของสภาพข้าว

ขณะที่นายศิลา เทียนแก๊ด ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกลอย เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจและพอใจ เพราะหากไม่รับซื้อก็ไม่รู้จะนำไปเก็บไว้ที่ไหนและจะได้นำเงินจากการขายข้าวไปใช้จ่ายในครอบครัวด้วยส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่ากรณีที่มีข้าวแดงปนจนถูกปฏิเสธการรับซื้อข้าอาจเกิดจากการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวซ้ำเกิน 2 ปีไม่ได้หลอกขายก็เข้าใจและไม่ได้ติดใจอะไรก็คงจะปรับเปลี่ยนพันธุ์ข้าว