กู้เรือเฟอร์รี่คืบคาดขึ้นฝั่ง15ก.ย.63 สุราษฎร์ฯห่วงปัญหาน้ำมันรั่ว-ขยะ
สุราษฎร์ธานี-กู้เรือเฟอร์รี่ราชา 4คืบคาดขึ้นฝั่ง 15ก.ย.63 ผู้ว่าฯประสานอธิบดีทช.ส่งทีมเฝ้าระวังน้ำมันและขยะรั่วกำจัดทันที เก็บตัวอย่างน้ำทะเลตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 12 กันยายน ความคืบหน้าปฎิบัติการกู้เรือเฟอร์รี่ราชา 4 บรรทุกรถบรรทุกขยะ 3 คัน ที่ประสบเหตุล่มเมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 บริเวณเกาะสี่เกาะห้า อ.เกาะสมุย ห่างจากท่าเรือเกาะสมุย ประมาณ 2 ไมล์ทะเล หลังใช้เรือเครนใหญ่ 2 ลำขนาด 200 ตันและ 600 ตันยกส่วนหัวเรือที่จมในสภาพคว่ำหน้าตะแคงขวาขึ้นบนผิวน้ำได้เมื่อวันที่ 11 ก.ย.63 ล่าสุด บริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส จำกัด ผู้รับจ้างบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้ใช้เครนใหญ่ดึงตัวเรือเฟอร์รี่ขึ้นให้อยู่ในแนวตั้ง 45-90 องศา เพื่ออาศัยการพยุงตัวของแรงดันน้ำในการเตรียมเปลี่ยนจุดติดตั้งโซ่ผูกตัวเรือเพื่อจัดความสมดุลย์ของเรือให้อยู่ในท่าตั้งลอยตัว พร้อมได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ กระจายของคราบน้ำมัน หากเกิดกรณีมีน้ำมันรั่วไหลจากตัวเรือ และติดตั้งอวนล้อมรอบบริเวณจุดปฏิบัติการกู้เรือ เพื่อดักเก็บขยะบางส่วนที่อาจหลุดลอยออกมา โดยใช้เรือประมง แล่นวนรอบบริเวณพื้นที่ชั้นนอกเพื่อเก็บตักขยะกรณีที่อาจหลุดลอยออกจากจุดควบคุม โดยยังไม่พบมีการรั่วไหลของคราบน้ำมันและขยะจากตัวเรือ คาดว่าวันที่15 ก.ย.นี้ จะสามารถกู้เรือขึ้นให้อยู่ในสภาพหงายปกติ เพื่อลากจูงเข้าฝั่งได้ต่อไป
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ประสานกับนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดส่งเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตาม และควบคุมปฏิบัติการกู้ซากเรือเฟอร์รี่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเฝ้าระวังการรั่วไหลคราบน้ำมันและขยะเมื่อพบ จะต้องรีบดำเนินการจัดเก็บหรือกำจัดทันที
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 สุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลช่วงระหว่างการกู้เรือเพื่อประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการเก็บตัวอย่างน้ำทะเล 4 ตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ด้านแบคทีเรีย ด้านโลหะหนักและด้านสารปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นมาตรการที่จังหวัดและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้ความสำคัญมากที่จะมีผลต่อสิ่งแวดล้อมในทะเล


