posttoday

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้ร้านขายอุปกรณ์โซล่าเซลล์กลางเมืองนครสวรรค์

05 สิงหาคม 2563

นครสวรรค์ - ไฟไหม้ร้านขายอุปกรณ์โซล่าเซลล์ กลางดึก เพื่อนบ้านขนของหนีจ้าละหวั่น

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 4 ส.ค. 63 ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ ขวัญเซ่ง ร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 117 ใกล้เคียงกับโรงแรมพาราดิสโซ่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ ทีมนักผจญเพลิงพร้อมด้วยรถดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครสวรรค์ จำนวน 4 คัน กำลังระดมฉีดน้ำสกัดไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ร้าน 3 เอส จำกัด ซึ่งเป็นตึกแถว 3 ชั้น ขนาด 2 คูหา และด้านหลังร้านอยู่ติดกับชุมชนหิมพานต์ ซอย 9 โดยใช้เวลาดับไฟนานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า ร้านดังกล่าว พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกให้เป็นที่เก็บอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้น 3 ซึ่งพบว่า ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยมีเจ้าของร้านที่เกิดเหตุได้มาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมกับระบุว่า ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ ไม่มีใครพักอยู่ในร้านแต่อย่างใด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความตระหนกตกใจให้กับเพื่อนบ้านข้างเคียงเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามเพื่อนบ้านรายหนึ่ง เล่าระบุเหตุการณ์ว่า ขณะกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในห้องพักพร้อมกับครอบครัว ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมากจากภายในร้านที่เกิดเพลิงไหม้ถึง 4 ครั้ง จึงได้รีบพากันออกมาดู ก็พบว่ามีเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ร้านดังกล่าวอย่างรุนแรง จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลมาระงับเหตุที่เกิดขึ้นก่อนจะพากันรีบกลับเข้าไปในบ้าน เตรียมที่จะขนย้ายข้าวของออก เนื่องจากเห็นไฟที่ไหม้แล้ว ดูน่ากลัวมาก และได้ลุกลามขึ้นไปที่ชั้น 3 อย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดความกลัวว่าจะลามมาที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านประดับยนต์ แต่เคราะห์ดีที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถมาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทัน

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบว่า นอกจากจะมีการเก็บอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไว้หลายชนิดแล้ว ยังมีการเก็บแบตเตอรี่ไว้อีกด้วย ซึ่งจุดตรงนี้ ทางเจ้าหน้าที่สงสัยว่า น่าจะเกิดการระเบิดของแบตเตอรี่ จนทำให้เกิดประกายไฟไปติดกับวัตถุไวไฟที่อยู่ใกล้เคียงจนทำให้เกิดไฟไหม้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการประสานให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ให้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป