หนังสือบุดสมุดข่อยโบราณถูกขโมยอาจเป็นการโจรกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในไทย

กรณีเกิดเหตุโจรกรรมหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณที่เก็บรักษาไว้ในศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ขณะนี้หลายฝ่ายเริ่มตื่นตัวเพื่อติดตามสมบัติของชาติกลับคืนมา ขณะที่นักวิชาการพบว่ามีการลอบนำออกไปจำหน่ายในตลาดมืดจำนวนมาก

นายฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ผู้ริเริ่มศูนย์ศิลปวัฒนธรรมในการเก็บรักษาหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณ ตั้งแต่ปี 2519 จนถึงปี 2522 เปิดเผยถึงข้อมูลของหนังสือบุดข่อยโบราณว่า แต่ละเล่มล้วนเป็นชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีช เพราะมีชิ้นเดียวในโลกเนื่องจากทำด้วยมือและนำมาบูชาองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ที่เชื่อว่ามีพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

อดีตนักศึกษาจาก ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ไว้ว่า เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม ประจำการห้องหนังสือบุดภาคใต้ ดูแลงานเอกสารทั่วไป ได้ระบุถึงจำนวนหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณที่มีอยู่มากกว่า 5 พันเล่ม และได้คัดเลือกหนังสือที่มีความสมบูรณ์ไว้ถึง 2,275 เล่ม จำแนก 6 ประเภทคือ ศาสนา วรรณกรรม ปรัชญา กฎหมาย ตำรา คาถา เลขยันต์ และได้จัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบรวมทั้งได้ปริวรรตหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณไว้อีก 3 เล่ม

หากเป็นไปตามข้อมูลนี้เท่ากับว่าสถานะของจำนวนหนังสือบุดที่หายไปอาจสูงมากกว่า 1 พันเล่ม ซึ่งการตรวจนับล่าสุดที่จัดทำรายงานการสูญหายพบว่ามีกลุ่มหนังสือบุดที่ทำทะเบียนเหลือเพียง 1,200 เล่ม หายไป 309 เล่ม และที่ยังไม่ทำทะเบียนเหลือเพียง 1,300 เล่มบ่งชี้เกิดขบวนการโจรกรรมหนังสือโบราณซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดินครั้งใหญ่สุดของของประเทศไทย

ที่ ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช พบว่าช่วงเช้าของวันนี้ (181 ก.ค.63) คณาจารย์และผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ยังคงติดการประชุมผู้บริหารและประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชนอกสถานที่ ไม่มีผู้บริหารออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่ นายฆณัฐ ธาตุทอง อธิการบดียังไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดิม.