นายทุนยอมรื้อขนำเฝ้าคอกหอยแครงหลังใหญ่ตามคำสั่งจังหวัด

ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาชาวประมงพื้นบ้านกับผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงในบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากจ.สุราษฎร์ธานีได้มีประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งขนำเฝ้าคอกหอย โฮมสเตย์ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ 12 มิ.ย.63 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.)ได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษในการรักษาความสงบเรียบร้อย ลาดตระเวนดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อ่าว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.บริเวณอ่าวบ้านดอน ทั้งเขตพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ อ.พุนพิน พบว่ามีชาวบ้านนำเรือประมงพื้นบ้านออกทะเล ประมาณ 7 ลำ เนื่องจากลูกหอยมีน้อยแล้ว หลังจากมีชาวบ้านนับหมื่นคนแห่ลงตักเก็บในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ศรชล.ภาค 2 ร่วมกับ ทัพเรือภาค 2 ได้นำเรือยางพร้อมชุดปฏิบัติการพื้นที่อ่าวบ้านดอน ร่วมกับเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.272 ร่วมลาดตระเวนในพื้นที่โดยพบผู้เฝ้าขนำคอกหอย อยู่จำนวน 15 หลัง

ทั้งนี้ ศรชล.ภาค 2 ได้ส่งชุดปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์เข้าพบนายสุวิทย์ สุธิราช นายก อบต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อนัดหมายชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่สร้างการรับรู้ในการเข้ามาปฏิบัติงานของ ศรชล.ภาค 2 เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดชายทะเล 7 หมู่บ้านและมีอ่าวในพื้นที่ 3 อ่าว ประกอบด้วย อ่าวรองยาน อ่าวคลองรั้ง และอ่าวคลองหน้า โดยลูกบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวประมงพื้นบ้านออกจับหอยที่เกิดตั้งแต่เดือนมี.ค.ถึงเดือน ก.ค.ทุกปี

อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงหอยแครงรายใหญ่รายหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ ได้ดำเนินการเข้ารื้อถอนขนำเฝ้าคอกหอยหลังใหญ่ แบบ 2 ชั้นเป็นหลังแรก เนื่องจากปลูกสร้างอยู่นอกเขตอนุญาต ส่วนขนำรายอื่นๆ ยังไม่พบมีการเคลื่อนไหว