นศ.สาวเศร้าสั่งซื้อไอโฟนได้พาวเวอร์แบงค์เก่าๆสูญกว่า 3 หมื่น

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น น.ส. ณัฐริดา บุตรจันทร์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น เข้าให้ปากคำพร้อมนำเอกสารเพิ่มเติมมามอบให้กับ ร.ต.อ. สุรศักดิ์ กล้าจอหอ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังสั่งซื้อสินค้าเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน รุ่น 11 โปร แม็กซ์ ราคา 30,000 บาท แต่ได้รับสินค้าเป็นพาวเวอร์แบงก์แทน

น.ส.ณัฐริดา กล่าวว่า ภายหลังจากทำงานพาสต์ทามส์ ในช่วงระหว่างเรียนมานานกว่า 1 ปี จึงสามารถเก็บเงินได้พอที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือ จึงตัดสินใจซื้อ ยี่ห้อไอโฟน 11 โปร แม็กซ์ จึงได้เข้าไปหาดูในมาร์เก็ต เพลซ ของเฟซบุ๊ก เลือกหาหลายร้าน จึงมาเจอประกาศขายในราคา 30,000 บาท โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “นภดล ครับผม” ประกาศขายถูกกว่าร้านอื่นๆ จึงได้เข้าไปสอบถามขอภาพถ่ายเพิ่มเติม รวมทั้งเอกสารเพื่อตรวจสอบว่ามีตัวตนจริงและมีสินค้าจริง มีการพูดคุยกันขอดูภาพเพิ่มเติมจนมั่นใจว่าไม่น่าจะใช่มิจฉาชีพ

จากนั้น จึงปรึกษาครอบครัวว่าจะซื้อดีหรือไม่ และก็ตัดสินใจซื้อเพราะเชื่อว่าจะได้รับของ คนร้ายยังขอเงินเพิ่มอีก 100 บาท สำหรับการเป็นค่าจัดส่ง จึงได้โอนเงินไปยัง 30,100 บาท ในวันที่ 20 ม.ค.2563 โดยที่คนร้ายก็มีการส่งภาพการบรรจุสินค้า การส่งสินค้ามาให้ดูอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสินค้ามาส่งที่บ้านจึงเปิดออกดูพบว่าเป็นพาวเวอร์แบงก์เก่าๆ

ทั้งนี้ เมื่อ ได้สอบถามไปยังคนร้ายรายนี้ ก็เริ่มติดต่อยาก พอติดต่อได้สอบถามไปว่าทำไมถึงโกง คนร้ายบอกจำเป็นต้องโกงเพราะติดหนี้พนัน ก่อนจะบล็อคช่องทางติดต่อต่างๆ และลบประวัติการพูดคุย ลบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องคนร้ายออกจากโซเชียล ตนเองจึงได้พยายามสืบค้นและติดต่อเพื่อขอเงินคืน ซึ่งคนร้ายมีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กไปหลอกคนอื่นๆด้วย และมีผู้เสียหายหลายราย ติดต่อล่าสุดคนร้ายรายนี้เยาะเย้ยกลับมาว่าตนเองโง่เองที่โดนหลอก โดยระบุว่า “ใครจะไปโง่ใช้ชื่อบัญชีตัวเองวะ พอดีอยากได้โทรศัพท์ใหม่ เลยให้มึงอะโอนไปให้คนที่เขาขายโทรศัพท์ แล้วตังทอนกูก็ขับรถไปรับเองในวันนั้นไง จำไม่ได้เหรอ ที่เงียบๆไปอะ ไปรับโทรศัพท์ใหม่ที่มึงโอนซื้อให้กู กับไปรับเงินทอน บอกแค่ว่าแฟนกูโอนเงินให้เกิน แค่นี้กูก็ได้ของฟรีได้เงินทอนฟรี ทั้งๆที่มึงกับคนขายไม่รู้อะไรเลย จบ”

น.ส.ณัฐริดา กล่าวว่า ภายหลังจากที่คนร้ายบอกมาแบบนี้ ได้แคปหน้าจอโทรศัพท์เอาไว้ทั้งหมด จึงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อให้สายสืบไซเบอร์ร่วมติดตาม จนกระทั่งมีผู้เสียหายที่ถูกโกงลักษณะนี้เข้ามาพูดคุยด้วยหลายคน และพยายามช่วยกันหาเบาะแสให้ แต่เรื่องราวยังเงียบไม่มีความคืบหน้าในวันนี้จึงเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามคดีอีกครั้ง เพราะเงินจำนวนดังกล่าวหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่ก็ต้องมาสูญเปล่าเพราะกลุ่มมิจฉาชีพ