ชาวบ้านถอนเงินโควิดถูกบังคับให้ทำบัตรเอทีเอ็มเสียค่าธรรมเนียม699บาท

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ชาวบ้าน ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังจากติดต่อเข้าถอนเงินโครงการช่วยเหลือภาครัฐจากผลกระทบโควิด-19 และไปติดต่อขอถอนเงินฝากส่วนตัว แต่ไม่ได้รับความสะดวกจากธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว เนื่องจากเจ้าหน้าที่สาขาให้ชาวบ้านทำบัตรเอทีเอ็ม พร้อมประกันอุบัติเหตุ โดยมีค่าบัตรแพงลิบ จำนวน 699 บาท และยังไม่ทำรายการถอนเงินที่เคาน์เตอร์ปกติให้

นางจิราวรรณ รัตนสุภา อายุ 51 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 3/5 ม.4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.63 ได้เดินทางไปที่ธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว เพื่อถอนเงินจำนวน 10,000 บาท แต่เมื่อไปถึงธนาคารต้องรอคิว และได้เขียนใบถอนเงิน ก่อนยื่นที่เคาน์เตอร์ฝากถอน เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขาไม่ทำรายการถอนเงินให้ และแจ้งให้ทำบัตรเอทีเอ็ม พร้อมประกันอุบัติเหตุ ในราคาบัตร 699 บาท จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า ไม่สะดวกใช้บัตรเอทีเอ็ม เพราะไม่มีความรู้ ที่ผ่านมาไม่เคยใช้บัตรเอทีเอ็ม แต่เจ้าหน้าที่ยังยัดเยียดให้ทำบัตรเอทีเอ็ม

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้พาตนลงไปที่ตู้เอทีเอ็ม ด้านหน้าธนาคาร และสอนให้ตนใส่รหัสเอทีเอ็ม รวมทั้งบอกขั้นตอนต่างๆ เป็นเวลานาน แต่เนื่องจากตนทำไม่ได้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจึงกดถอนให้ ทำให้ตนรู้สึกแปลกใจ เพราะเป็นลูกค้าธนาคารออมสินมาโดยตลอด และมีการฝากถอนปกติไม่มีการใช้บัตรเอทีเอ็มแต่อย่างใด แต่เมื่อมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐฯ ในช่วงโรคระบาดโควิด-19 เข้ามา ธนาคารกลับให้ทำบัตรเอทีเอ็มในอัตราค่าธรรมเนียมสูงถึง 699 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้มีค่ามากสำหรับชาวบ้าน เพราะใช้จ่ายประทังชีวิตได้หลายวัน

เช่นเดียวกับนางใกล้ ณ สงคราม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่.4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กล่าวว่า ตนไปจะถอนเงิน จำนวน 15,000 บาท ที่ธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว ซึ่งเป็นเงินฝากปกติในบัญชีออมทรัพย์เมื่อไปติดต่อเคาน์เตอร์ฝากถอนเงิน แต่ได้รับการปฏิเสธเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ทำรายการถอนให้ พร้อมแจ้งให้ตนทำบัตรเอทีเอ็ม พร้อมประกันอุบัติเหตุ ในอัตราค่าธรรมเนียม 699 บาท แต่ตนไม่ยอมทำ เพราะตนใช้บัตรเอทีเอ็มไม่เป็น ก็ถูกเจ้าหน้าที่คะยั้นคะยอ โดยอ้างความสะดวก จึงโต้เถียงกันอยู่นาน จนลูกสาวที่ไปด้วยก็โวยวายขึ้นมา และยืนกรานไม่ให้แม่ทำ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ และเงินดังกล่าวก็เป็นเงินส่วนตัว ตนอายุมากแล้วไม่สะดวกใช้บัตรเอทีเอ็ม และเคยชินกับการเบิกถอนที่เคาน์เตอร์ฯ เพราะที่ผ่านมาตนฝากถอนได้ตามปกติ ทำให้ต้องไปธนาคารออมสิน สาขาดังกล่าว ถึง 2 วันติดต่อกัน กว่าจะได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าว

วันแรกไปรอตั้งแต่เช้า เจ้าหน้าที่ให้นั่งรอใต้ถุนอาคารนานมาก ไม่มีบัตรคิวให้ แต่ภายหลังเอาบัตรคิวมาให้ ตนเองได้ลำดับที่ 153 ปรากฏว่าตนเองรอจนถึงเย็นธนาคารใกล้จะปิด และเห็นตัวเลขขานคิวค้างอยู่ที่คิวที่ 150 จึงเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองจะเบิกเงินได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าทำได้แค่คิวที่ 150 ทำให้ตนเองเสียเวลามากทั้งวัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่บริหารจัดการไม่เป็น เพราะหากแจ้งว่ารับคิวได้แค่ 150 คน ตนก็จะได้กลับบ้าน ไม่ต้องเสียเวลารอ แต่พอไปวันที่ 2 ก็ถูกบังคับจะให้ทำบัตรเอทีเอ็มดังกล่าว

ด้าน นายจิตสุวรรณ ณ สงคราม อายุ 61 ปี ชาวบ้านอีกราย ก็กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยที่ธนาคารบังคับให้ชาวบ้านทำบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งความจริงต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และต้องถามชาวบ้านก่อนว่าทำเป็นหรือไม่ ส่วนตัวเคยใช้ พอกดผิดก็ถูกตู้เอทีเอ็มกลืนบัตร จึงเลิกใช้ แถมราคาบัตรยังสูงถึง 699 บาท ซึ่งแพงมาก โดยหากชาวบ้านได้รับสิทธิ์ความช่วยเหลือ หรือมีเงินส่วนตัวในธนาคาร แต่หากจะเบิกจะถอน ก็ต้องเสียค่าบัตรเอทีเอ็ม 700 บาท แทนที่จะเหลือเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น เพราะเงินทุกบาทขณะนี้มีความหมายมาก กลับทำให้ได้รับความเดือดร้อนหนัก สวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่จะช่วยเหลือชาวบ้านในยามวิกฤติ แม้แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ รัฐบาลก็ยังมีนโยบายช่วยเหลือ แต่ธนาคารของรัฐบาลกลับบังคับขูดรีดเงินจากชาวบ้าน ทั้งนี้ ชาวบ้านไม่ยินยอม

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว พบว่า มีชาวบ้านเดินทางมารับบริการจำนวนมาก ทั้งเบิกเงิน และขอกู้เงิน ส่วนบริเวณตู้เอทีเอ็มด้านหน้าธนาคาร มีชาวบ้านเดินทางไปกดเงินเป็นระยะๆ แต่ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านส่วนหนึ่งเดินถือสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม ที่เจ้าหน้าที่ให้ทำใหม่เดินลงมาจากธนาคาร พร้อมกับกล่าวว่า พวกตนได้นำสมุดบัญชีมาถอนเงินที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลกับธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าคนเยอะ ไม่อยากให้ไปรอแออัดหน้าเคาน์เตอร์ จึงให้ทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ ใบละ 699 บาท ส่วนตัวก็บอกแล้วว่าไม่อยากทำ เพราะใช้ไม่เป็น แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้ทำ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ชาวบ้านลงมากดหน้าตู้เอทีเอ็มแทน ซึ่งก็พบว่าชาวบ้านกดเงินไม่เป็น จึงมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาสอนวิธีการกดตามลำดับขั้นตอนให้ ตั้งแต่กดรหัส เลือกเมนูภาษา และทำรายการ ซึ่งบางรายต้องใช้เวลานานประมาณ 3-4 นาที แต่หากเบิกเงินที่เคาน์เตอร์ตามความประสงค์ก็จะเสร็จเร็วกว่า และบางรายเกือบจำรหัสผ่านไม่ได้ เมื่อสอบถามกับชาวบ้านทราบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มาเบิกเงินโครงการช่วยเหลือภาครัฐ และได้ถูกชักจูงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำบัตรเอทีเอ็ม ในอัตราค่าธรรมเนียมที่สูงมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามขอสัมภาษณ์ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว ถึงเรื่องดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถจะให้สัมภาษณ์ได้ ต้องระดับผู้บังคับบัญชาเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้ให้ข้อมูลและขอความเห็นใจว่า การที่ธนาคารต้องให้ประชาชนทำบัตรเอทีเอ็ม และทำการกดถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากว่าขณะที่ในแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงไม่อยากให้ลูกค้าเข้ามาแออัดภายในธนาคาร และต้องป้องกันเชื้อโควิดตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องมีระยะห่างทางสังคม หรือ Social distancin แต่ปรากฎว่าประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก ทำให้บัตรเอทีเอ็มทั่วไปหมด โรงงานผลิตไม่ทัน จึงต้องใช้บัตรเอทีเอ็มในราคาดังกล่าว แต่จะมีประกันอุบัติเหตุเสริมให้ด้วย และก็เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เป็น ถ้าประชาชนไม่เป็นตั้งแต่ตอนนี้ ก็ไม่ทราบจะเป็นเมื่อใด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกใช้บัตรเอทีเอ็ม ซึ่งแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการประมาณ 100 คิว แต่เฉลี่ยทำได้ ชม.ละประมาณ 10 คิวเท่านั้น