เอกชนภูเก็ตวอน"บิ๊กตู่"ลงมารับทราบปัญหาวิกฤตด้านท่องเที่ยวในพื้นที่บ้าง

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหหกรรมท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต ร่วมกับ คณะกรรมการร่วมองค์กรเอกชนจ.ภูเก็ต ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ,สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต , สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ,สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง,สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมกะตะกะรน,หอการค้าจ.ภูเก็ต,สภาอุตสาหกรรมจ.ภูเก็ต ,บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมืองและสมาคมอสังหาริมทรัพย์จ.ภูเก็ต ร่วมแถลงขอความชัดเจนการเปิดเผยข้อมูลการจัดการกลุ่มเสี่ยงโควิด-19ในจ.ภูเก็ต และเรียกร้องนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับจ.ภูเก็ตจังหวัดท่องเที่ยว ณ ศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต

นายสรายุทธ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากส่วนกลางอย่างเดียว แต่ในระดับพื้นที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่งผลให้เกิดเฟคนิวส์ขึ้นจำนวนมาก ประชาชนแตกตื่น ภาคเอกชน 9 องค์กรในจ.ภูเก็ตจึงขอเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลการแพร่ระบาดในจ.ภูเก็ต โดยขอความยืดหยุ่นให้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อ หรือไม่มีอาการในจังหวัดท่องเที่ยว โดยเฉพาะจ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งความชัดเจนในการให้ประชาชนเข้าไปตรวจร่างกายต้องไปที่ใดบ้าง ต้องหามาตรการรองรับประชาชนในกรณีเจ็บป่วยจากโรคดังกล่าว

ทั้งนี้ คนภูเก็ตหวาดหวิตกกันมากเข้าไปตรวจวันเดียวกว่า 100 คนที่รพ.วชิระภูเก็ต มีพยาบาลดูแลรับผิดชอบเพียง 30 คน ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ควรหางบประมาณหรือโรงพยาบาลสำรองสนับสนุน และขอให้มีการบริหารจัดการที่ดีมีผู้รับผิดชอบที่สามารถสั่งการบัญชาการเหตุการณ์ได้ในเรื่องนโยบายและงบประมาณภาวะฉุกเฉิน ในการจัดซื้อเครื่องเทอร์โมสแกน เครื่องฉีดพ่น ดำเนินการไดัอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านการจัดซื้อจัดจ้างเพราะเป็นภาวะวิกฤติ ขอให้ทางส่วนกลางให้อำนาจลงมาในระดับจังหวัดในการเปิดเผยความจริง ต้องมีศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ 24 ชั่วโมง

"ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ภูเก็ตเหนื่อยมามากแล้วช่วยเหลือประเทศในการสร้างรายได้ด้วยการท่องเที่ยวมามากแล้ว ตอนนี้ จ.ภูเก็ต เริ่มป่วยถ้าเจ็บหรือล้มตายจะไม่มีโอกาสได้ช่วยรัฐบาลอีก ขอให้นายกรัฐมนตรีลงมารับทราบปัญหาในจ.ภูเก็ต แทนที่จะออกข่าวออกมาตรการเฉพาะที่กรุงเทพฯเท่่านั้น" นายสรายุทธ กล่าว

ด้าน นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า จากการสำรวจโรงแรมต่างๆในช่วงนี้ มีธุรกิจโรงแรมที่รับทัวร์จีนปิดชั่วคราวจำนวนหนึ่ง คาดว่า ภายในเมษายนนี้ ถ้าสามารถควบคุมเชื้อโรคไวรัสได้ จ.ภูเก็ตปลอดภัย เชื่อว่าชาวจีนจะกลับเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ต ส่วนนักท่องเที่ยวอื่นที่เข้ามา ยังมี กลุ่มยุโรป รัสเซีย และสแกนดิเนเวีย

"ปัจจุบันนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 จาก 6 ประเทศ เข้ามาภูเก็ตจำนวน น้อยลง เนื่องจากรัฐบาลกำหนดให้เข้ามาไม่เกิน 50 คนต่อวัน มีการกำหนดให้พักอยู่ในโรงแรม 1 แห่ง ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงอีก 11 ประเทศพื้นที่ระบาด เข้ามาจำนวนน้อยมากเช่นกัน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ติดตามตรวจอาการทุกคนทุกวันอย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกโรงแรมต้องรับกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้มีมาตรการเข้มข้นในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงมาก" นายกัองศักดิ์ กล่าวและว่า