posttoday

เตรียมใช้ยาแรงลุยรื้อ“บ้านสุขาวดี”รุกล้ำที่สาธารณะริมทะเลพัทยา 11 ไร่

27 มกราคม 2563

ชลบุรี-เมืองพัทยาเอาจริงเตรียมรื้อ“บ้านสุขาวดี”รุกล้ำที่สาธารณะริมทะเล 11 ไร่ หลังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่รับคำอุทธรณ์ เล็งดำเนินคดีอาญากับเจ้าของอีกกระทง

ชลบุรี-เมืองพัทยาเอาจริงเตรียมรื้อ“บ้านสุขาวดี”รุกล้ำที่สาธารณะริมทะเล 11 ไร่ หลังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่รับคำอุทธรณ์ เล็งดำเนินคดีอาญากับเจ้าของอีกกระทง

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการกับอาคารบ้านสุขาวดีที่รุกล้ำที่สาธารณะ ริมทะเลจำนวน 11 ไร่ โดยมี เรือตรีปราโมช ทับทิม รองปลัดเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่สำนักการช่างและเจ้าหน้าที่สำนักช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา เข้าร่วมหารือและติดตามความคืบหน้า

เตรียมใช้ยาแรงลุยรื้อ“บ้านสุขาวดี”รุกล้ำที่สาธารณะริมทะเลพัทยา 11 ไร่

นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า นายกเมืองพัทยาได้มีนโยบายชัดเจนในการดำเนินการกับสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณะบ้านสุขาวดีตามกรอบกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของเมืองพัทยาอย่างจริงจัง หลังจากเมืองพัทยาได้มีการปิดหมายคำสั่งไปแล้วและก็ครบกำหนดการรื้อถอนไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ในส่วน 3 อาคารที่ได้มีการติดหมายคำสั่งไปเมื่อวันที่ 7 พ.ย.2562

ทั้งนี้ ทางบ้านสุขาวดีได้มีการร้องอุทธรณ์คำสั่งไปยัง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการอุทธรณ์มีมติไม่รับเรื่องการอุทธรณ์คำสั่งของเมืองพัทยาแต่อย่างใด ดังนั้นเมืองพัทยาก็จะเร่งดำเนินการในขั้นตอนตามกฎหมาย และพร้อมจะใช้มาตรการที่เด็ดขาด พร้อมเตรียมติดหมายไม่รับคำร้องอุทธรณ์ให้เจ้าของอาคารรับทราบ ก่อนเมืองพัทยาจะดำเนินการรื้อถอนต่อไป เพื่อเอาพื้นที่สาธารณะคืนมาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนั้น มีอีก 2 อาคาร ซึ่งเป็นอาคาร ค.ส.ล.ขนาด 5 ชั้นหลังจากเมืองพัทยาได้มีการปิดหมายคำสั่ง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารต่าง ๆไปแล้วทางบ้านสุขาวดีไม่มีการอุทธรณ์คำสั่ง หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวลงพื้นที่ติดประกาศรื้อถอนพร้อมประเมิณราคาค่ารื้อถอน ภายใน 15 วัน หากเจ้าของอาคารไม่ดำเนินการรื้อถอน ก็จะมอบหมายให้ฝ่ายวิศวกรรมออกแบบรั้ว หากมีการรื้อถอนอาคารเสร็จแล้วก็จะมีการติตั้งรั้วปิดล้อมพื้นที่ควบคู่ไป

ทั้งนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ได้มีคำแนะนำว่าพบอาคารบางส่วนที่เมืองพัทยาออกหมายรื้อถอนไปแล้วตั้งอยู่ในที่สาธารณะเมืองพัทยาควรจะมีการออกหมายอาคารที่ตั้งอยู่ในที่สาธารณะไปด้วย เพื่อจะได้ดำเนินคดีอาญากับเจ้าของอาคารนั้นด้วย