ราชทัณฑ์แจงเหตุไม่นำ"เพนกวิน-เพื่อน"ไปรักษาโควิดนอกพื้นที่

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงญาติและกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ย้ายตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำราษฎร และเพื่อนที่ติดเชื้อโควิดออกไปรักษาตัวที่ร.ธรรมศาสตร์ฯ ว่า การรักษาผู้ต้องขังในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด กรมราชทัณฑ์ โดย ศบค.ยธ. และ ศบค.รท.ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาฟาวิพิราเวียร์และยาฟ้าทะลายโจร การรักษาโรคที่เป็นมาตรฐานเดียว โดยมีโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวางเป็นแม่ข่ายหลักในการรักษาผู้ต้องขัง โดยโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายสำหรับผู้ต้องขังในเขตพื้นที่กทม.และอยู่ในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีมาตรฐานตามระบบสาธารณสุข

ทั้งนี้ โรงพยาบาลของรัฐภายนอกมีมาตรการในการรักษาพยาบาล แต่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในหอผู้ป่วย รวมถึงเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ด้วย หากผู้ต้องขังกระทำผิดหรือหลบหนีระหว่างเข้ารับการรักษาตัวก็จะเป็นความเสี่ยงในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลของรัฐ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ต้องขัง และผู้ต้องขังถูกจัดอยู่ในบริเวณที่ไม่สามารถมองเห็นหรือควบคุมได้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็อาจถูกลงโทษด้วย นอกจากนี้ นายพริษฐ์และพวกเป็นผู้ต้องขังอยู่ระหว่างฝากขังต่อศาลอาญา การดำเนินการใดๆ กับกลุ่มผู้ต้องขังก็ต้องได้รับการอนุญาตจากศาลอาญาทุกครั้ง

นายธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับการตรวจร่างกายวันนี้ พบว่า นายพริษฐ์รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ไม่มีอาการหายใจเหนื่อยหลังทำกิจกรรม เดินออกกำลังกายบริเวณรอบเตียง และภายในห้องผู้ป่วยได้ หายใจปกติ ทำกิจวัตรประจำวันได้เอง จมูกได้กลิ่นและลิ้นรับรสได้ปกติ นอนพักหลับได้ดี สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนปกติ แพทย์ให้การรักษาตามอาการร่วมกับยาพ่นโรคประจำตัว ส่วนนายสิริชัย นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า และเพื่อนทั้งหมดรู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่อ่อนเพลีย ไม่มีหายใจหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่ไอ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้ สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ